ได้เบาะแสโจ๋ซ่าปาหิน ด.ช.12ดับ

'พ่อใจสลาย'ประกาศชีวิตแลกชีวิต
 
ได้เบาะแสแก๊งปาหินเมืองเพชรแล้ว เป็นคนในพื้นที่ หลังก่อเหตุสยองขี่ จยย.เปิดไฟสูงย้อนศร สวนทางสิบล้อปาหินขนาดใหญ่เกือบ 2 กก.ใส่หน้ารถ ทะลุกระจกแตกละเอียด พุ่งกระแทกเข้าหัวหนูน้อยวัย 12 ขวบ เต็มเปา กะโหลกแตก-สมองไหล ไปขาดใจตายอนาถที่รพ. พ่อสุดแค้นมีลูกชายคนเดียว ลั่นชีวิตแลกชีวิต หากรู้ประสงค์ร้ายขับรถพุ่งชนตายไปแล้ว ระบุหากจับได้ยิงทิ้งไปเลย ด้าน ผบช.ภ.7 ชี้เหตุคึกคะนองไม่ได้ประสงค์ทรัพย์ ส่งชุดสืบสวนร่วมไล่ล่า
 
เหตุปาหินใส่รถทำให้เด็กเสียชีวิตราย  นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 9 มี.ค. พ.ต.ท.สนธยา ดีหะสิงห์ สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายปาหินใส่รถบรรทุก สิบล้อ บนถนนเพชรเกษมขาลงใต้ ระหว่างหลัก กม.ที่ 147-148 หมู่ 3 ต.ต้นมะพร้าว อ.เมืองเพชรบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ ที่หน้ารถเขียนว่า “ขวัญใจเทพอารีย์”  ทะเบียน 70-1249 เพชรบุรี

จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง สภาพกระจกหน้ารถแตกละเอียด ที่เบาะนั่งด้านซ้ายข้างคนขับพบกองเลือด และก้อนหินขนาดใหญ่ น้ำหนักเกือบ 2 กก.ตกอยู่ 1 ก้อน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้ถูกนำส่ง รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปดูอาการที่ รพ. ทราบชื่อคือ ด.ช.อนุพงษ์ หรือน้องมอส สายเพ็ชร อายุ 12 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 96/3 หมู่ 1 ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชร บุรี มีบาดแผลที่หน้าผากด้านขวาถูกกระแทกด้วยของแข็งจนกะโหลกแตกยุบ มันสมองไหล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
 
สอบสวนนายสนิท สายเพ็ชร อายุ 45 ปี บิดาน้องมอส คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกอ้อยไปส่งที่โรงงานใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยพาน้องมอส ลูกชายนั่งรถมาเที่ยวด้วย เนื่องจากเห็นว่าปิดเทอมแล้ว จนกระทั่งขากลับเมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์เปิดไฟสูงวิ่งย้อนศรมาในเลนซ้าย ตนจึงเปิดไฟสูงกะพริบ 1 ครั้ง เพื่อเตือนให้คนขี่รถจักรยานยนต์รู้ตัว และตนก็ขับรถเบี่ยงออกมาทางขวาด้วยความระวัง เพราะเห็นว่าคนขี่รถจักรยานยนต์ไม่มีท่าทีจะเปิดไฟต่ำ

เมื่อรถจักรยานยนต์เข้ามาใกล้ คนที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นวัยรุ่น ใช้มือซ้ายขว้างก้อนหินใส่กระจกหน้ารถด้านซ้ายอย่างแรง

จนกระจกหน้าแตกละเอียดทั้งบาน ก้อนหินพุ่งทะลุเข้ากระแทกศีรษะน้องมอสอย่างจังจนเลือดพุ่งกระฉูด ตนจึงพยายามประคองรถจอดข้างทาง แล้วหันไปดูน้องมอสเห็นว่ามีอาการเกร็งและชัก ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯมาช่วยนำตัวส่ง รพ.ในที่สุด
  
“ผมมีลูกชายคนเดียวและรักมาก ยอมสละได้แม้ชีวิตของตัวเอง อยากได้อะไรก็หามาให้ตลอด ไม่คิดว่าจะมาจากไปเร็วขนาดนี้ ตอนเกิดเหตุหากผมรู้ว่าคนร้ายมีเจตนาจะปาหินใส่ ผมคงจะขับรถชนไปแล้ว ชีวิตแลกชีวิตกันไป และหากจับคนร้ายได้ก็อยากให้ยิงทิ้ง” นายสนิท กล่าวด้วยความโกรธแค้น
 
ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ เขต 16 เพชรบุรี

จากนั้นได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ภาย หลังได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า จากเหตุการณ์ที่  เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า คนร้ายไม่ได้มีความประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้เสียหาย แต่น่าจะเป็นการกระทำด้วยความคึกคะนองมากกว่า
  
ขณะนี้ทีมสืบสวนได้เบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว ซึ่งคาดว่าเป็นคนในพื้นที่ โดยมีการตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมมั่วสุมในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย และเพื่อให้การทำงานกระชับมากยิ่งขึ้น ตนจึงได้นำฝ่ายสืบสวนภาค 7 มาร่วมทำงานในคดีนี้ด้วย ในส่วนของผู้เสียหายนั้น ตนได้มอบเงินส่วนตัวจำนวน 1 หมื่นบาท ช่วยเหลือกับครอบครัวของนายสนิท ในการทำศพลูกชายต่อไป.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์