ไชยาสั่งสอบทำคลอดตาย

"ไชยา" สั่งกองประกอบโรคศิลปะตรวจสอบข้อเท็จจริงการตายของแม่หลังหมอผ่าตัดทำคลอดให้ที่ รพ.เอกชนเป็นการด่วน

จี้ดูทั้งมาตรฐานโรงพยาบาลและมาตรฐานการรักษา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการตายของ “น้องหมิว” วัย 7 ขวบ ที่รพ.อู่ทอง ได้ข้อยุติแล้วสาธารณสุขจังหวัด จ่ายค่าทำศพให้ 5 หมื่น ค่าทำขวัญอีก 5 หมื่น และสิทธิอันพึงได้ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ แห่งชาติจ่ายให้อีก 2 แสนบาท พ่อแม่พอใจไม่ติดใจที่จะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา พร้อมกับถอนแจ้งความ
 
จากกรณีที่ นางพรรพิไล ตันเจริญ อายุ 31 ปี ตั้งครรภ์แรก เกิดเจ็บครรภ์ใกล้คลอด และมีน้ำเดินในคืนวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา

จึงไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านโคกครามที่ฝากครรภ์ไว้ แพทย์ตรวจพบว่าไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ เนื่องจากรกเกาะต่ำ แพทย์จึงผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้ลูกเป็นทารกเพศชาย น้ำหนัก 3,000 กรัม ร่างกายแข็งแรงดี หลังผ่าตัดมารดาเสียเลือดมาก แพทย์จึงผ่าตัดครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน เพื่อตัดมดลูกเนื่องจากมดลูกไม่แข็งตัว แต่ นางพรรพิไล ได้เสียชีวิตลง แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าภาวะหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว แต่ นายศราวุธ ตันเจริญ สามีผู้ตายคาดว่าเป็นความประมาทของแพทย์ จึงเข้าแจ้งความที่ สน.โคกคราม พร้อมกับยืนยันว่าหากเป็นความประมาทของแพทย์ จะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ามาเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมาโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า

ในวันนี้ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข  ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นการด่วน โดยให้กองการประกอบโรคศิลปะ ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเอกชนที่ทำคลอด นางพรรพิไล เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งสั่งกำชับให้กองการประกอบโรคศิลปะ เร่งพัฒนาและตรวจสอบมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศให้เป็นที่มั่นใจของประชาชนที่รับบริการได้อย่างปลอดภัยในชีวิต
  

ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผอ.กองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า

ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยดูทั้งมาตรฐานสถานพยาบาล เครื่องมือแพทย์ บุคลากร มาตรฐานการรักษา ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุผิดถูกได้ สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้จะให้แพทยสภาและองค์กรวิชาชีพช่วยตรวจสอบด้วย 


นพ.ธารา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด 333 แห่ง

กองการประกอบโรคศิลปะได้พัฒนาและสนับสนุนให้โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง พัฒนามาตรฐานให้ดีขึ้นทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ ทั้งเรื่องเครื่องมือ บุคลากร และความสะอาดสถานพยาบาล เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการ และให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐานบริการ โดยในปี 2551 นี้ ได้จัดแผนส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมประเมินคุณภาพอย่าง  ต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง


ขณะเดียวกัน นพ.สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.วิภาดา ปทุมสูติ หรือน้องหมิว อายุ 7 ขวบเศษ
 
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จากอาการไข้ และปวดท้อง ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเด็กอาจเป็นไข้เลือดออก ว่าเจ้าหน้าที่ของ โรงพยาบาลอู่ทองได้ให้การดูแลรักษาน้องหมิว อย่างเต็มที่ ในวันนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับบิดามารดาของน้องหมิวแล้ว พร้อมให้การดูแล   ช่วยเหลือเต็มที่ เบื้องต้นได้จ่ายเงิน 50,000 บาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในงานบำเพ็ญกุศลศพ และจะมอบค่าทำขวัญให้อีก 50,000 บาท โดยในวันที่ 10 มี.ค.นี้ จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าชดเชยตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นสิทธิอันพึงได้ ในวงเงิน 200,000 บาท ซึ่งหลังพูดคุยผู้ปกครองเข้าใจ และไม่ติดใจที่จะดำเนินเรื่องทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยจะถอนแจ้งความในตอนเช้าวันเดียวกันด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์