ใต้ไม่กลัวเคอร์ฟิว วางเพลิง ร.ร.2 หลัง แถมเผาธงชาติทิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.ท.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา

พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง รอง ผกก.(สส.)

นายเมธี กาญจนภูวะ นอภ.บันนังสตา พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 45 ไปร่วมตรวจสอบ อาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบาโงยแจเกาะ หมู่ 10 ต.บันนังสตา ตั้งอยู่บนถนนสาย 4077 บันนังสตา-ยะหา

หลังถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผาอาคารศูนย์ฯ

พบอาคารคอนกรีตชั้นเดียวพร้อมอุปกรณ์การเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด สอบสวนทราบว่า เมื่อกลางคืนวันที่ 7 เม.ย. มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักลอบเข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุแล้วใช้น้ำมันเบนซินราดตามพื้นและผนังอาคารแล้วจุดไฟเผาก่อนหลบหนีไป

จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดิมไปตรวจสอบ

อาคารโรงเรียนบ้านป่าหวัง หมู่ 1 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันจากจุดแรก และถูกวางเพลิงในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อกลางดึกวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา พบอาคาร 2 ชั้นถูกเผาเสียหายทั้งหลัง

นอกจากนี้ กลุ่มคนร้ายยังบังอาจ

ชักธงชาติที่อยู่บนเสาหน้าอาคารลงมาจุดไฟเผาทำลายเหลือแต่เศษผ้าเพียงบางส่วน พอทุกคนเห็นธงชาติถูกเผาถึงกับสลดใจที่กลุ่มโจรบังอาจย่ำยีสัญลักษณ์ ของชาติ สำหรับพื้นที่ อ.บันนังสตา เมื่อคืนวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารโรงเรียนกับสถานีอนามัยถึง 9 แห่ง

ขณะเดียวกัน นายเมธี กาญจนภูวะ นอภ.บันนังสตา

ให้ผู้ใหญ่บ้านเรียกประชุมชาวบ้านป่าหวังภายในโรงเรียนบ้านป่าหวัง โดยกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามปลุกระดมชาวบ้านให้หลงเชื่อมากขึ้น โดยการนำเอาเหตุการณ์ต่างๆ เช่น

การขว้างระเบิดใส่มัสยิด

หรือการกราดยิงโรงเรียนปอเนาะในพื้นที่ต่างๆ มาโฆษณา ชวนเชื่อ เพื่อให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ ทั้งที่เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

แต่โยนความผิดมาให้เจ้าหน้าที่รัฐ

พร้อมกันนี้ นายเมธียังรับปากจะพยายามช่วยเหลือ ชาวบ้านในด้านต่างๆ ไม่ให้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มโจร และพยายามลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้มากขึ้น

ทางด้าน พ.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช ผบ.ฉก.ที่ 1

ยะลา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากองกำลังทุกส่วนร่วมกันดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมแล้วแต่ยังเกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อ.ยะหา กับ อ.บันนังสตา

ซึ่งเป็นพื้นที่ของการประกาศเคอร์ฟิว

ดังนั้นต้องปรับแผนการรักษาความปลอดภัยใหม่ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มจุดตรวจและการลาดตระเวนเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายตลอด 24 ชั่วโมง

โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง

และกองกำลังที่ตั้งฐานปฏิบัติการประจำทุกหมู่บ้านดำเนินการในเชิงรุกเกี่ยวกับการสร้างพลังมวลชนให้เข้มแข็ง เน้นการเข้าถึงพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และการแจ้งเบาะแสต่างๆ ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เชื่อว่าหากพลังมวลชนมีความเข้มแข็งมากกว่านี้จะสามารถควบคุมปัญหาความรุนแรงต่างๆได้ทุกพื้นที่

ที่ จ.ปัตตานี ตอนสายวันเดียวกัน

ร.ต.ต.เพื่อน พรมดี ร้อยเวร สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุยิงกันบนถนนสายดอนรัก-ท่าด่าน หมู่ 1 ต.ดอนรัก พบรถ จยย.พ่วงข้าง เสียหลักล้มตะแคงอยู่ข้างถนน และมีรอยเลือดไหลนองเต็มพื้น

ใกล้กันพบศพนายละมุน จันทบุรี

อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 2 ต.ท่าด่าน อ.หนองจิก ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าศีรษะ 1 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายขี่ จยย.พ่วงข้างไปตลาดถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ตามประกบยิงจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมโจรป่วนใต้สร้างสถานการณ์

ด้าน จ.นราธิวาส กรณีโจรป่วนใต้ดักยิง

นายอารง มะงง อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กับนายมะหะหมัดอามีน ซาริคาน อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิต 2 ศพ และคนร้ายยังชิงเอาปืนลูกซอง 5 นัด กับปืน 9 มม.หลบหนีไป

เหตุเกิดบนถนนบ้านบาลูกา

หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ เมื่อคืนวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ เรียกชุดสืบสวนประชุมเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย

ซึ่งในที่ประชุมได้พุ่งเป้าไปที่นายมือลี แนแว

กับพวก ประมาณ 6-10 คน โดยนายมือลีมีหมายจับของ สภ.อ.รือเสาะ ในคดีเกี่ยวกับความมั่นคงหลายคดี ประกอบกับแนวทางการสืบสวนพบว่า นายมือลีลงมือก่อเหตุร่วมกับกลุ่มโจรอาร์เคเคมาหลายครั้ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ