โหด สลด!! เชือดหลอดลม ฆ่าแม่เฒ่าวัย 77

รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่า


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ต.อัศวิน ศรีนาเจริญศรี สารวัตรเวร สภ.อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่าที่บ้านเลขที่ 42 ซอยวัดราษฎรรังสรรค์ 12 หมู่ 5 ต.บางกระเจ้า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธ์ ผกก. พ.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.โสภณ มุ้ยจั่น สว.สส. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สนั่นทุ่ง สวป. น.พ.ธำรง เลิศอุดมผลวณิช แพทย์เวร รพ.บางจาก เจ้าหน้าที่วิทยาการ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู


ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะตัดหลอดลม หัวไหล่ 2 ข้าง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ยกพื้นใต้ถุนโล่ง ประตูบ้านถูกล็อกจากด้านใน ส่วนหน้าต่างบ้านเปิดอ้า เจ้าหน้าที่จึงปีนหน้าต่างเข้าไปปลดล็อกกลอนประตูจากนั้นเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบศพ น.ส.สาลี่ ภุมมาลี อายุ 77 ปี เจ้าของบ้าน นอนตายอยู่ตรงพื้นปลายเตียงภายในห้องนอน ลักษณะศพนอนตะแคง สวมเสื้อคอกระเช้าสีแดง นุ่งผ้าถุงลายเขียว ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะตัดหลอดลม หัวไหล่ 2 ข้าง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม ร่างกายมีรอยเขียวช้ำ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชม. โดยทราบว่ามีทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วยเข็มขัดนาก 1 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยการรื้อค้นและร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของเครื่องใช้ล้มระเนนระนาด กับมีคราบรอยเท้าจากห้องนอนไปยังหน้าต่างที่อยู่สูงจากพื้นประมาณ 2 เมตรเศษ คาดว่าหลังคนร้ายก่อเหตุแล้วกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง


แหงนหน้าขึ้นไปมองพื้นสังเกตมีคราบเลือดไหลลงมาทางรอยแยกของพื้น


สอบปากคำนางเกษร ภุมมาลี อายุ 39 ปี หลานสะใภ้ของผู้ตาย ให้การว่า น.ส.สาลี่ เป็นสาวโสด พักอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว โดยตนมีหน้าที่คอยหาอาหารมาให้กินและช่วยทำความสะอาดบ้าน ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเที่ยงวันเดียวกัน แวะไปหาผู้ตายที่บ้าน แต่ประตูบ้านถูกล็อกจากด้านใน ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ คิดว่าผู้ตายนอนหลับ เข้าไปใต้ถุนบ้านเพื่อเคาะพื้นบ้านตรงห้องนอนของผู้ตาย แต่เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมองพื้นสังเกตมีคราบเลือดไหลลงมาทางรอยแยกของพื้นบ้าน เชื่อว่าต้องมีเหตุร้ายกับ น.ส.สาลี่ แน่ จึงเดินสำรวจรอบบ้านพบว่าหน้าต่างบ้านเปิดแง้มอยู่ เมื่อปีนหน้าต่างขึ้นไปดูพบ น.ส.สาลี่ ถูกเชือดคอเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบมาที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจสอบประวัติของ น.ส.สาลี่ ทราบว่า เดิมมีที่ดินอยู่ 7 ไร่ ต่อมาแบ่งให้ลูกหลานส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนำไปขายได้เงินมาประมาณ 1 ล้านบาทเศษ นำไปฝากไว้กับธนาคาร เหลือที่ดินเพียง 2 ไร่ เป็นที่ปลูกบ้าน ปัจจุบันราคาสูงถึงไร่ละ 8 ล้านบาท น.ส.สาลี่เห็นว่าตัวเองอยู่ในวัยชรามากแล้ว และเตรียมจะแบ่งที่ดินที่เหลืออยู่ให้กับลูกหลาน แต่ยังไม่ทันแบ่งก็มาถูกฆ่าเสียก่อน


ประเด็นแรกเป็นเรื่องมรดก แบ่งมรดกให้ไม่เป็นธรรม

จากหลักฐานรวมทั้งพยานแวดล้อมตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือประเด็นแรกเป็นเรื่องมรดก อาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายเป็นคนใกล้ชิดเกิดความไม่พอใจที่ น.ส.สาลี่แบ่งมรดกให้ไม่เป็นธรรม หรืออาจจะไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับมรดก จึงบุกไปทวงถาม แต่ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงลงมือสังหารโดยใช้มีดเชือดคอเสียชีวิต จากนั้นปลดเอาทรัพย์สินในตัวเพื่ออำพรางคดีให้ดูเป็นการชิงทรัพย์ แล้วกระโดดออกทางหน้าต่างหลบหนีไป อีกประเด็นเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคนร้ายอาจะเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติดละแวกใกล้เคียง เห็นว่าผู้ตายพักอยู่คนเดียว และสวมใส่เครื่องประดับราคาแพง จึงบุกเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ ผู้ตายขัดขืนต่อสู้ แต่เนื่องจากอยู่ในวัยชรา พลาดท่าถูกคนร้ายจับเชือดคอตายสยองแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นทั้งหมดเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนต่อไป




แหล่งข่าว ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์