โต๊ะ-เก้าอี้ก็ไม่เว้น รวบโจรขโมยของวัด จับเข้าคุก-ใช้กรรม

สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้จริงๆ ขนาดข้าวของเครื่องใช้ในวัดยังถูกโจรใจบาปทำทีมาขอยืมแล้วแอบยกไปขายหน้าตาเฉย

ของที่ได้จากการทำบุญยังกล้าทำได้!!?

นายศุภเศรษฐ์ ป่ายาง อายุ 28 ปี คือคนร้ายที่วางแผนขอยืมเก้าอี้พลาสติกของวัดและตามชุมชนต่างๆ ในย่านดอน เมือง แล้วแอบเอาไปชั่งกิโลขาย ตระเวนทำแบบนี้มาหลายแห่งหลายครั้ง ทำมาแล้วมากมาย

บางวัดต้องสูญเก้าอี้ไปนับพันตัว

งานนี้ยังดีที่ตำรวจตามจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ รวบตัวนายศุภเศรษฐ์ หัวขโมยเก้าอี้เอาไว้ได้ ขณะกบดานอยู่ในบ้านพัก จึงนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ว่ากันว่าหมอนี่นอกจากจะต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุกแล้ว

ยังต้องชดใช้บาปที่ทำไว้อีกด้วย!!

ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 29 ก.ย. วันนั้น นายริน จันทะวงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/ก9 ม.4 แขวงสีกัน เขตดอน เมือง

ประธานชุมชนม่วงมณี กับ นายสกล กีรติธนอุดม อยู่บ้านเลขที่ 124 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรรมการชุมชนนิเวชชาวฟ้า เดินขึ้นโรงพักสน. ดอน เมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท. สุเทพ ปานสีเส้ง พนักงานสอบสวน ให้จับกุม นายศุภเศรษฐ์ ป่ายาง อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 16 ซ.ช่าง อากาศอุทิศ 10 แยก 1-2 แขวงและเขตดอนเมือง
ในข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่อง จากนายศุภเศรษฐ์ ซึ่งแอบอ้างชื่อว่า "วราพงษ์" มีพฤติกรรมตระเวนยืมเก้าอี้พลาสติกและโต๊ะจากชุมชนและวัดต่างๆ ภายในเขตพื้นที่ดอนเมือง เป็นเวลาหลายวันแล้วไม่ยอมนำไปคืน เมื่อพบหน้าและทวงถาม เจ้าตัวกลับทำเมินเฉยชาวบ้านจึงสืบหาข้อมูล พบว่าหมอนี่สุดแสบแอบเอาโต๊ะเก้าอี้ที่ขอยืมไปชั่งกิโลขายตามร้านรับซื้อของเก่าเพื่อหาเงินใช้มันเสียอย่างนั้น


ทำได้ไม่เว้นแม้ของวัดของสาธารณะ

นายริน เล่ารายละเอียด ว่า
 
เมื่อ วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา นายศุภเศรษฐ์ ใช้ชื่อปลอมว่า "วราพงษ์" เข้าไปยืมเก้าอี้ในชุมชนม่วงมณี บอกว่าที่ชุมชนนิเวชชาวฟ้า จะมีการจัดงานบุญ เก้าอี้พลาสติกมีไม่ พอรับแขกที่มาร่วมงาน ประมาณ 100 ตัว ตนจึงให้ยืมไป นายศุภเศรษฐ์ ได้นำรถกระบะมาขน โดยไม่ได้เอะใจอะไร เพราะก็คุ้นหน้าตากันอยู่ โดยเฉพาะกรรมการชุมชนก็รู้จักกัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ก็ยังไม่ยอมนำเก้าอี้มาคืน จึงประสานไปยังนายสกล กรรมการชุมชน ก็ได้รับคำตอบว่า ที่ชุมชนไม่ได้ให้ใครไปยืมเก้าอี้เพื่อจัดงานบุญแต่อย่างใด หลังจากวันนั้นก็มีชาวบ้านได้ยินข่าวว่าวัดหลายแห่งในเขตพื้นที่ดอนเมือง ก็ถูกคนชื่อ "วราพงษ์" เข้าไปยืมเก้าอี้ พลาสติกไปใช้ และไม่ได้คืนเช่นกัน

เมื่อตรวจสอบจึงรู้ว่าถูกหลอก!!?

สําหรับเก้าอี้กับโต๊ะที่นายศุภเศรษฐ์ยืมไปจากวัดและชุมชนต่างๆ มี อาทิ ของจากวัดไผ่เขียว 290 ตัว วัดเทพนิมิตร 150 ตัว วัดอำพันธ์เอมสาร 150 ตัว วัดพุทธสยาม 100 ตัว ชุมชนม่วงมณี 55 ตัว ชุมชนนิเวชชาวฟ้า ซึ่งเป็นชุมชนที่คนร้ายพักอาศัยอยู่ ยังยืมไปจำนวน 100 ตัว โต๊ะเหล็ก 4 ตัว พัดลมตัวใหญ่ 1 ตัว

ตำรวจจึงหาเบาะแสแหล่งรับซื้อ

ชุดสืบสวนสน.ดอน เมือง ออกสืบจนพบ ว่า

คนร้ายนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปขายที่ร้านรับซื้อ ของเก่า ชื่อร้านสยาม ตั้งอยู่เลขที่ 111/839 ม.4 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้น พบเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงิน สีเขียวอ่อน และสีขาวขุ่น จำนวน 70 ตัว ซึ่งแต่ละตัวยังมีชื่อ วัดเขียนอยู่ด้านหลัง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนเชิญตัวนางปภาวรินท์ กลิ่นฟุ้ง อายุ 40 ปี เจ้าของร้านมาสอบปากคำ

นางปภาวรินท์ บอกทางร้านรับซื้อไว้ในราคากิโลกรัมละ 11 บาท

งานนี้เจ้าของร้านรับซื้อของเก่ายอมรับสารภาพว่า รับซื้อมาจาก ผู้ต้องหาจริง แต่เป็นเก้าอี้ที่ชำรุด ทั้งนั้น ตำรวจจึงแจ้งข้อหาค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับของโจร ก่อนที่จะยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาท ยื่นประกันตัวออกไป

ในส่วนของการไล่ล่าคนร้าย พ.ต.อ. ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน. ดอนเมือง สั่งการให้พ.ต.ท.กฤชกนก พาสะวณิช สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ออกตามตัวผู้ต้องหาที่บ้านพักและบ้านญาติทันที โดยเจ้าหน้าที่เข้าเกลี้ยกล่อมญาตินายศุภเศรษฐ์ ให้ไปบอกนายศุภเศรษฐ์เข้ามอบตัว ก่อนจะแกล้งถอนกำลังออกมาจากบ้านพักของมัน แต่ทิ้งกำลังนอกเครื่องแบบเอาไว้

ในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น นายศุภเศรษฐ์ ก็ออกมาปรากฏกายอยู่แถวบ้านพัก ในซอยช่างอากาศอุทิศ 10 ตำรวจที่เฝ้าดูอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม นำตัวมาสอบปากคำ

โจรเก้าอี้วัดจนมุมตำรวจในที่สุด!!

ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ก่อเหตุยักยอกทรัพย์ของวัดไปจริง เมื่อได้ของไปแล้วก็จะใช้ทินเนอร์ลบชื่อวัดที่เขียนไว้ออก หลังจากนั้นจึงนำไปขาย

นอกจากนี้ ตำรวจยังสืบพบว่านายศุภเศรษฐ์ยังเคยมีประวัติติดยาเสพติดอีกด้วย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้วัดและชุมชนต่างๆ เริ่มหันมาให้ความเข้มงวดในการให้ยืมของใช้ เพราะกลัวเจอเหตุ การณ์ซ้ำสอง อย่างเช่นวัดในย่านดอนเมือง ตอนนี้กว่าจะให้ยืมข้าวของได้จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการสกรีนคนขอยืมกันวุ่นวาย

เพื่อป้องกันคนเอาของสาธารณะไปเร่ขาย!!?

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์