โดนจี้อ้างเป็นเอดส์โจรฝ่อไม่กล้าข่มขืน

ลูกสาวดาวร้ายรุ่นเก๋า ถูกหนุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างในพัทยาลวงชิงทรัพย์แถมพยายามข่มขืน

เหยื่ออ้างเป็นเอดส์ระยะสุดท้าย คนร้ายถอยฉาก สุดท้ายเอาแค่โทรศัพท์มือถือ และเงินสด 1 พันเผ่นหนี

เหตุหญิงสาวถูกคนร้ายในคราบจักรยานยนต์

รับจ้างชิงทรัพย์และหวังข่มขืนรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ เจริญศรี สวส.สภ.ต.พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า

มีหญิงสาวถูกคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง

ลวงไปชิงทรัพย์และพยายามข่มขืน เหตุเกิดในซอยกอไผ่ พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นทางลัดก่อนถึงร้านอาหารเวียงจันทน์ ประมาณ 100 เมตร

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง

ผกก. พ.ต.ต.ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สว.สส. และกำลังชุดสืบสวน สภ.ต.พัทยา รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายวิ่งออกมาหน้าปากซอยในสภาพร่างกายมอมแมม ไม่สวมรองเท้า อยู่ในอาการตกใจกลัว ตำรวจจึงพาผู้เสียหายไปส่งบ้าน

จากการสอบสวน น.ส.ผึ้ง (นามสมมติ)

อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ให้การว่า ขายเสื้อผ้าวัยรุ่นบูติกอยู่ในกรุงเทพฯ ได้ลางานมาเยี่ยมแม่ที่พัทยา ซึ่งพักอยู่ย่านถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ ก่อนเกิดเหตุได้ออกมายืนเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ปากซอยเทพประสิทธิ์

น.ส.ผึ้ง กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์รับจ้าง

คนขับขี่สูงประมาณ 165 ซม. ตัวใหญ่ ผิวดำแดง ผมหยักศก อายุราว 25-30 ปี สวมเสื้อวินสีแดง สกรีนด้านหลังเสื้อเป็นภาษาอังกฤษว่า "LK" จำเบอร์ไม่ได้ ขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

ผ่านมา ตนจึงบอกให้ไปส่งที่ท่ารถบริษัทรุ่งเรืองทัวร์

ถนนพัทยาเหนือ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปเปิดร้านขายเสื้อผ้าในตอนเช้า ระหว่างนั่งซ้อนท้ายไปก็เอะใจว่าทำไมรถวิ่งออกนอกเส้นทาง และเลี้ยวลัดเข้าไปในซอยเปลี่ยว จึงโทรศัพท์กลับไปหาแม่ที่บ้าน

"ช่วงที่คุยโทรศัพท์อยู่นั้น

คนร้ายก็หยุดรถแล้วดึงโทรศัพท์ไปพร้อมกับปิดเครื่องทันที ก่อนจะใช้มีดจี้บังคับและลวนลาม จึงออกอุบายต่อรองว่า ตัวเองเป็นโรคเอดส์ระยะสุดท้าย เพิ่งมาให้หมอที่พัทยาตรวจ คนร้ายถึงกับไม่กล้าแตะต้องตัว

แต่บังคับเอาโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

มูลค่า 1.6 หมื่นบาท และเงินสดอีก 1,000 บาทไป พร้อมข่มขู่ไม้ให้แจ้งความ ไม่เช่นนั้นจะกลับมาฆ่าไห้ตาย ก่อนจะขี่รถหลบหนีไป ปล่อยดิฉันทิ้งไว้ในที่มืดและเปลี่ยว ด้วยความตกใจจึงถอดรองเท้าทิ้งวิ่งหนีออกมาปากซอย พร้อมร้องเรียกให้คนช่วย ก่อนที่จะมีพลเมืองดีโทรแจ้งตำรวจ" น.ส.ผึ้ง กล่าว

ขณะที่ นางวัน (นามสมมติ) อายุ 52 ปี

แม่ของผู้เสียหาย ซึ่งมีอาชีพนวดฝ่าเท้าอยู่ที่ชายหาดจอมเทียน พัทยา กล่าวว่า น.ส.ผึ้ง เป็นลูกในสายเลือดของดาราดาวร้ายในอดีต ซึ่งมามีภรรยาทราบชื่อว่า "โจ" แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

ส่วนตนได้รับ น.ส.ผึ้ง

มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่แบเบาะ สมัยที่ตนทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ พอเอามาฝากเลี้ยงก็ไม่ยอมมารับคืนตนจึงเลี้ยงดูเสมือนลูกในไส้มาตลอด

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามลูกสาวทราบว่า

คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง มีพฤติกรรมเป็นที่น่าหวาดกลัวต่อผู้โดยสารอย่างมาก หากตำรวจไม่ติดตามจับกุมมาดำเนินคดี คนร้ายอาจไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก หรือเคยก่อคดีลักษณะดังกล่าวมาแล้วก็เป็นได้ แต่เหยื่อบางรายไม่กล้าแจ้งความ คนร้ายจึงเหิมเกริมมากขึ้น กระทั่งมาก่อเหตุกับลูกสาวของตนอีก

พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ กล่าวว่า

เบื้องต้นได้ส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางละมุง พร้อมกับตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานที่คาดว่าระหว่างก่อเหตุคนร้ายอาจทำหลักฐานบางอย่างตกไว้

พร้อมกันนี้ยังให้ผู้เสียมาที่

สภ.ต.พัทยา ดูรูปถ่ายของกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างในเมืองพัทยา เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก