โจรป่วนใต้บึมรถฮัมวี่ ทหารเจ็บระนาว

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถนนอู่ทองนอก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นประธานแถลงผลการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ครั้งที่ 3/2549 ร่วมกับคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย พล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช อดีต ผบ.ทร. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ กรรมการและเลขาธิการโครงการฯ โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ร่วมด้วย

ทั้งนี้ โครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากดำริของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการฯขึ้นเป็นรุ่น 4 ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.-19 พ.ย.นี้

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า โครงดังกล่าวจะนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 90 คน โดยคัดเลือกเยาวชนที่มีฐานะยากจน เด็กกำพร้า หรือด้อยโอกาสทางการศึกษา เข้าพักอาศัยใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สระบุรี โดยครอบครัวอุปถัมภ์จะนับถือศาสนาอิสลาม และมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกันเพื่อการเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ และสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัว รวมทั้งเพื่อสร้างโอกาสให้แก่เยาวชน ให้ได้รับการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ชีวิตตลอดจนการพัฒนาแนวคิดในการปฏิบัติงาน การเป็นผู้นำของชุมชนไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคม

หลังการแถลงข่าว พล.อ.สุรยุทธ์ได้รับมอบรองเท้ายี่ห้อด็อกเตอร์ มาร์ติน จากนายสุเมธ กองพัฒนากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เจอเนรัล ยูนิฟอร์ม จำกัด จำนวน 200 คู่ เพื่อให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนำไปสวมใส่ในการร่วมกิจกรรมเดินป่าด้วย เสร็จแล้วนายกฯ ยังได้ทำพิธีเปิดสำนักงานโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ที่ชั้น 2 พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินงานของสำนักงานด้วย

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยว่า ที่ผ่านมาโครงการ สานใจไทย สู่ ใจใต้ ประสบความสำเร็จ เด็กไทยมุสลิมแต่ละคนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครอบครัวอุปถัมภ์ และมีสัมพันธ์ ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ยังทำให้เยาวชนไทยมุสลิมทางใต้ มีความกระตือรือร้นอยากเรียนต่อ เพราะเห็นตัวอย่างที่ดีจากเยาวชนไทยมุสลิมในครอบครัวอุปถัมภ์ ทำให้มีการติดต่อขอรับทุนการศึกษามาจำนวนมาก มีการสนับสนุนทุนการศึกษาไปแล้ว 60 ทุน และจะมีการสนับสนุนเพิ่มอีก 90 ทุน ในที่ประชุมทางนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการที่ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน และจะสานต่อโครงการต่อไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 7 ธนาคาร ทหารไทย สำนักงานใหญ่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงยุทธศาสตร์ของนักศึกษา วปอ. ประจำปี 2548 ว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนพอๆกับเรื่องการเมือง เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกฯมาเลเซียได้แสดงท่าทีในการให้ความร่วมมือที่ชัดเจน พร้อมที่จะช่วยเหลือเรา พร้อมให้เบอร์ โทรศัพท์ไว้ติดต่อด้วย ตนยังได้ขอร้องนายกฯมาเลเซียในการทำความเข้าใจกับประเทศมุสลิมอื่นๆ ซึ่งนายกฯมาเลเซียรับรองจะทำให้ แต่ตนมีเงื่อนไขโดยขอให้รอดูการทำงานสัก 2-3 เดือน แล้วช่วยประเมินผล จากนั้นก็ไปช่วยทำความเข้าใจกับประเทศมุสลิมอื่นๆ ว่าเราพยายามแก้ไขปัญหาของเราด้วยแนวทางสันติวิธี แต่ แน่นอนว่าคนที่นิยมความรุนแรงมีอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายภาครัฐ และฝ่ายของผู้ที่ต้องการจะสร้างให้เกิดปัญหาขึ้น อาจจะมีแนวความคิดเก่าๆ ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนได้ นำปัจจัยอื่นเข้ามาประกอบ แต่คิดว่ามีจำนวนไม่มากนัก ดังนั้น การสร้างความเข้าใจมันอยู่ที่คนส่วนใหญ่ต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการแต่งตั้งให้นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็น ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า ยังไม่ได้มีการพูดกัน เพราะอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร หลังปรับโครงสร้างเรียบร้อยแล้วค่อยมาคิดว่าจะเอาบุคคลใดเข้า ไปทำหน้าที่ ต้องมีการหารือร่วมกันระหว่าง สมช.กับมหาดไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่า เท่าที่ดูนายชาญชัย มีความเหมาะสมหรือไม่ นายอารีย์ตอบว่า แล้วแต่ ยังบอกไม่ได้ แต่ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ภาคใต้อย่างดี

ส่วนที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดยะลา สายวันเดียวกัน นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล รอง ผวจ.ยะลา เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ครั้งที่ 5 โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา มีผู้ที่ได้รับผลกระทบกรณีเสียชีวิตจำนวน 50 ราย รายละ 6,000 บาท เงินฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพ จำนวน 33 ราย รายละ 200,000 บาท และผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 38 ราย รายละ 3,000 บาท มีผู้มารับเงินช่วย เหลือในครั้งนี้จำนวน 121 ราย

นายศิริพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลชุดใหม่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและถูกจุดมากที่สุด เฉพาะการ รื้อฟื้น ศอ.บต.และ พตท.43 ขึ้นมาใหม่ คิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ที่ผ่านมาทางภาครัฐและประชาชนได้รับการสูญเสียไปมาก ไม่เข้าใจว่ากลุ่มก่อความไม่สงบทำเพื่อ อะไรกัน ส่วนภาครัฐก็พยายามเจรจาโดยมีอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียช่วยเหลือประสานกับกลุ่มก่อความไม่สงบ มีผู้นำศาสนาในพื้นที่ไปร่วมเจรจาถึง 6 คน

ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาการ ผบช.ภ.9 เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนและมอบของที่ระลึกให้กับนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ที่บ้านพักภายในโรงเรียนเตรียมอิสลามวิทยา อ.เมืองปัตตานี เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้นำศาสนากับเจ้าหน้าที่รัฐ จากนั้น พล.ต.ท. อดุลย์กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น จากสถิติปีที่ผ่านมาคดีเกิด 200 คดี ปีนี้เหลือไม่ถึง 100 คดี ถือว่าการทำงานได้ผลสำเร็จ เพราะประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือมากขึ้น ส่วนการฟื้น ศอ.บต.เชื่อว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น และคนเป็น ผอ.ศอ.บต.ควรจะเป็นผู้มีความสามารถเข้าใจวัฒนธรรมพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ต.เมธา สิงหเสนา สารวัตรเวร สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักระเบิดทหารและยิงปะทะกัน มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย บนถนนสายปูยู-โคกกระเปาะ บ้านชุมบก หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรัง พบรถยนต์ฮัมวี่ ทะเบียนตรากงจักร 30221 จอดอยู่ริมถนน กระจกหน้าแตกและตัวถังด้านขวาถูกระเบิดเป็นรูพรุน บนพื้นถนนพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร และพบเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่อง เช่น เศษกล่องเหล็ก เชื้อปะทุ ปุ๋ยยูเรีย และชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อนพื้นในรัศมี 15 เมตร

ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นทหาร 4 นาย สังกัดกองร้อยที่ 2 หมวดที่ 1 กองพันทหารราบที่ 21 ฉก.36 เพชราวุธ ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในวัดโฆษิต อ.ตากใบ ถูกนำส่ง รพ.สุไหงโก-ลก ก่อนแล้วทราบชื่อคือ ร.ท.ศราวุฒิ คงรอด อายุ 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้าและแขนซ้าย ร.ท.ชายแดน เกาะแก้ว อายุ 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า แขนซ้ายและขาขวา ส.อ.บุญจิม พลัดอยู่ อายุ 39 ปี ถูกแรงอัดระเบิดหูอื้อ และพลทหารพรศักดิ์ ไกรสิทธิ์ อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า แขนและขาขวา สอบสวนทราบว่า ร.ท.ศราวุฒินำกำลังออกตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่ผ่านจุดเกิดเหตุถนนเป็นหลุมและมีท่อนไม้ขวางอยู่ จึงขับหลบจนทับระเบิด และคนร้ายที่แอบซุ่มในป่าข้างทางกดระเบิดทำงานสนั่น ทหารพากันหนีตายก่อนใช้ปืนยิงตอบโต้ปะทะกันนาน 10 นาที กลุ่มคนร้ายจึงล่าถอยพร้อมวางเรือใบไม่ให้เจ้าหน้าที่ตามล่า

ก่อนหน้านี้ตอนสามทุ่มวันเดียวกัน ร.ต.ต.สุเมธ คงเขียว ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 862 บ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 4 ต.ปะลุรู จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี นำกำลังตำรวจทหารและฝ่ายปกครองไปตรวจสอบ พบศพนายอายิสาตา มาหะมะ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ปะลุรู นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้า ร่างพรุนกว่า 10 นัด พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 กับกระสุนปืนอาก้าตกอยู่คนละฝั่งถนนเกลื่อน 18 ปลอก สอบสวนทราบว่า ขณะที่ผู้ตายกับลูกน้องประมาณ 10 คน กำลังผสมปูนซีเมนต์เพื่อทำโรงเก็บรถอยู่หน้าบ้าน ปรากฏว่าคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ คนละฝั่งถนน ได้ใช้ปืนเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มกระสุนถูกนายอายิสาตาเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกน้องรอดหวุดหวิด สาเหตุในชั้นนี้สงสัยเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ต่อมาเวลา 00.45 น.วันที่ 19 ต.ค. ร.ต.ท.ธานินทร์ สันชวฤทธิ์ ร้อยเวร สภ.ต.แม่วาด อ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบเผาบ้านเรือนชาวบ้านที่หมู่ 1 ต.แม่วาดำ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.เจริญ นวนทอง สว.หน.สภ.ต. แม่วาด พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 3 หลัง ปลูกติดกันกลางสวนยางพารา เพลิงลุกไหม้รุนแรงเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำสกัดนานร่วม 1 ชั่วโมง จึงสงบ เผาบ้านวอดทั้ง 3 หลัง ในกองขี้เถ้ามีกลิ่นน้ำมันเบนซินโชยคลุ้ง ทราบว่าหลังแรกเป็นบ้านของนายหะมะ อาแด อายุ 40 ปี ส่วนอีก 2 หลัง เป็นของนายรอหะ บาเบ อายุ 30 ปี กับบ้านนางอามีเนาะ บือแน อายุ 35 ปี ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เบื้องต้นสงสัยกลุ่มก่อความไม่สงบลอบเผาสร้างสถานการณ์

เวลา 17.30 น. ขณะที่นายดอเลาะ ดาเล็ง อายุ 35 ปี อส.อำเภอกรงปินัง จ.ยะลา พร้อมนายซาปือลี กอและ อายุ 28 ปี เพื่อน อส.ด้วยกัน นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.จะไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสดกรงปินัง ผ่านสามแยกปากทาง หมู่ 7 ต.กรงปินัง ถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน นั่งซ้อนท้ายรถ จยย. 2 คัน ประกบ ใช้ปืนพก 9 มม. กับปืน 11 มม. ยิงถล่ม ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ ขณะที่ น.ส.ไซนับ เจ๊ะและ อายุ 17 ปี ชาวบ้านขี่รถ จยย.ผ่านถูกลูกหลง กระสุนถากใบหน้าได้รับบาดเจ็บอีกคน หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นราศักด์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา นำกำลังตำรวจทหารไปตรวจที่เกิดเหตุ คาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุ

ส่วนศพ ส.ต.ศรคม งามสำลี ทหารกองพันพัฒนาพิทักษ์ทรัพยากร กรม 2 พัน 1 ที่กลุ่มโจรป่วนใต้ยิงถล่มเสียชีวิตบริเวณสามแยกบ้านจะกว๊ะ หมู่ 1 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อเช้าวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา

สายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นเครื่องบินที่ จ.นราธิวาส ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.บ้านนา จ.นครนายก แล้วบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด

ค่ำวันเดียวกัน ร.ต.ท.เนติวุฒิ ดีแก้ว ร้อยเวร สภ.อ. สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 361 บ้านปอเนาะ หมู่ 7 ต.ปะลุรู จึงนำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปสอบสวน พบศพนายสุกรี อาแวหะมะ อายุ 37 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ปะลุรู นอนจมกองเลือดในบ้าน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ศีรษะและลำตัวพรุน สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปทำพิธีละศีลอดที่มัสยิดใกล้บ้าน แล้วขี่รถ จยย.มาแวะที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพ่อตาแม่ยาย ขณะนั่งอยู่ในบ้านถูกคนร้ายบุกยิงถล่มเสียชีวิตคาที่ คาด กลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ เพราะผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ