โจรบุกเดี่ยว ปืนจี้แคชเชียร์แบงก์กสิกรนครปฐม - กวาดเงินกว่า 5 แสนหนีลอยนวล

โจรบุกเดี่ยว ปืนจี้แคชเชียร์แบงก์กสิกรนครปฐม - กวาดเงินกว่า 5 แสนหนีลอยนวล

เวลา 11.30 น. วันที่ 24 ก.ค. พ.ต.ต.สมจิตร ยศหนองทุ่ม สว.เวร สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
 
รับแจ้งจากนายสันทาน กันโต ผู้จัดการธนาคารว่าเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกบุกเข้ามาใช้อาวุธปืนจี้พนักงานภายในธนาคารกสิกรไทยสาขากำแพงแสน ริมถนนมาลัยแมน   อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม   ได้เงินสดไปจำนวนมาก แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย ขณะนี้คนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว หลังรับแจ้งแล้วจึงประสานห้องวิทยุเพื่อสกัดจับกุมคนร้าย   พร้อมกับรายงานให้พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สมบัติ อ่อนสมบูรณ์ ผกก.สภ.กำแพงแสน พ.ต.ท.เด่นชัย อินทร์จักร รอง ผกก.ป. พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล ผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม   พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส. พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสวนสภ.กำแพงแสน   ร่วมเดินทางไปตรวจ 

ในที่เกิดเหตุพบพนักงานยืนอยู่ด้วยอาการตกใจ สอบถามน.ส.สิริยา  เปี่ยมคล้า  อายุ 28 ปี พนักงานธนาคารซึ่งนั่งอยู่ในเคาน์เตอร์ที่ 6   เป็นโต๊ะแรก

ติดกับประตูเข้าออก  5 เมตร  เผยว่าขณะที่กำลังบริการลูกค้าอยู่นั้นได้มีชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงสีดำ  สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ  พร้อมกับหนีบถุงสีดำไว้ที่แขน  เดินเข้ามาที่โต๊ะของตน   เมื่อตนเห็นจึงบอกว่าให้ถอดหมวกเพราะเป็นระเบียบของธนาคาร แต่ชายคนร้ายได้เดินเข้าพร้อมกับชักอาวุธปืนออกมาจากเอว  แล้วขู่ว่าให้นำเงินมาให้หมด  ตนตกใจจึงเดินลุกออกจากโต๊ะ  จากนั้นคนร้ายเห็นว่าลิ้นชักเปิดอ้าอยู่  จึงเข้ามาหยิบเงินไปทันที  ซึ่งในลิ้นชักมีเงินสด 3 แสนบาท

เมื่อคนร้ายหยิบเงินไปแล้วจึงเดินถือปืนส่ายไปมาแล้วเดินจนถึงเคาน์เตอร์ที่ 3  

ซึ่งทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเบิกถอนซึ่งที่เคาว์เตอร์ที่ 3 นั้นมีนายคำนวณ เชียวหุน  พนักงานนั่งอยู่  ถูกคนร้ายเอาปืนจ่อแล้วข่มขู่ว่าให้ส่งเงินมาให้  ด้วยความกลัวจึงต้องส่งให้ อีกกว่า 3 แสน  รวม 6 แสน  จากนั้นคนร้ายได้นำเงินยัดใส่ในถุง  พร้อมกับเล็งปืนไปที่พนักงาน  แล้วพูดว่าห้ามตามมาหรือแจ้งตำรวจ ไม่เช่นนั้นจะยิงให้หมด  หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีขึ้นรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนีไปมุ่งหน้าเข้า นครปฐม จึงรีบแจ้ง ตร.ให้สกัดจับคนร้าย แต่ก็ไร้วี่แวว   เจ้าหน้าที่ได้เช็คภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้  ปรากฏว่ามีเพียงกล้องเดียวที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ คือภาพที่เดินเข้าธนาคาร และเดินออกจากธนาคารเท่านั้น  

หลังเกิดเหตุธนาคารต้องปิดการทำธุรกรรมไว้ชั่วคราว พร้อมแจ้งกองวิทยาการ ภาค 7 มาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย  ขณะนี้ได้สั่งให้ ตร.บูรณาการออกสืบสวนหาข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อดำเนินการจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์