แม่จับลูกยัดเตาอบเพี้ยนทาน้ำมันทั่วตัวลุงช่วยรอดหวุดหวิด

ตำรวจสหรัฐจับแม่ที่เพิ่งเลิกกับสามีจับลูกทาน้ำมันแล้วยัดเตาอบ โชคดีผู้เป็นลุงมาพบเข้าพอดีเลยรอดชีวิต

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม ว่าเกิดคดีสะเทือนขวัญขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อนางชาร์ลีน ซิงก์ ชาวกีอานา วัย 29 ปี ถูกจับกุมตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา ในข้อหาพยายามฆ่าลูกสาวของตัวเองด้วยการจับยัดเข้าเตาอบแล้วเปิดเครื่องทิ้งไว้ โชคดีที่ผู้เป็นลุงมาพบเข้าก่อนเลยไม่เป็นอันตราย ขณะนี้นางซิงก์ถูกควบคุมตัวอยู่ ตำรวจตั้งวงเงินประกันตัวสูงถึง 1.5 หมื่น ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.4 แสนบาท) เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ

รายงานข่าวแจ้งว่าเด็กหญิงเคราะห์ร้ายรอดชีวิตเพราะลุงเข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ของนางซิงก์เพื่อไปขนของของน้องชายซึ่งเป็นสามีของนางซิงก์ที่เลิกรากันไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างย้ายข้าวของออกไป ขณะที่กำลังเก็บของอยู่ก็ได้ยินเสียงลูกสาววัยเกือบ 1 ขวบของนางซิงก์ร้อง จึงถามออกไปว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน แต่นางซิงก์ไม่ตอบคำถามใดๆ แถมยังออกจากอพาร์ตเมนต์ไปทันที

ในที่สุดผู้เป็นลุงก็หาเจอว่าเสียงเด็กร้องมาจากเตาอบที่เปิดเครื่องทิ้งไว้จึงรีบปิดเครื่องแล้วนำเด็กออกมา โชคดีที่ความร้อนจากเตาอบยังไม่แรงพอที่จะทำอันตรายเด็กหญิงคนนี้ แม้ว่าผู้เป็นแม่จะทาน้ำมันลงบนตัวเด็กด้วยก็ตาม

เหตุการณ์ทำร้ายเด็กอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ศาลรัฐโอไฮโอตัดสินจำคุกนางไชนา อาร์โนลด์ วัย 26 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่นางอาร์โนลด์อุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกสาววัย 1 เดือนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผลการชันสูตรพบบาดแผลที่เกิดจากความร้อนภายในตัวเด็ก แต่ไม่พบบาดแผลใดๆ ภายนอกตัวเด็กเลย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตคืออุณหภูมิความร้อนในร่างกายของเด็กสูงผิดปกติ โดยลูกขุนศาลรัฐโอไฮโอเชื่อว่าเด็กเสียชีวิตจากความร้อนในเตาไมโครเวฟ

นอกจากนี้เมื่อปี 2543 นางเอลิซาเบธ เรเน่ โอธ ชาวเวอร์จิเนีย ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี ในข้อหาฆาตกรรมลูกชายวัย 1 เดือน ด้วยการจับยัดเข้าเตาไมโครเวฟและเปิดเครื่อง นางเอลิซาเบธซึ่งมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชักอ้างว่า จำเป็นต้องฆ่าลูกชาย เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาเลี้ยงดูได้