แพทย์หนุ่มจบชีวิต แขวนคอในคลินิก ตำรวจรอสอบญาติ

แพทย์หนุ่มวัย 26 ปี เจ้าของคลินิกในเขตปทุมธานี ผูกคอตายกับราวบันได สอบปากคำเพื่อนร่วมงานได้เบาะแสเพียงเป็นคนชอบเก็บตัว รักษาคนไข้เสร็จแล้วก็ใช้เวลาอยู่แต่ในห้องแล็บตำรวจมึนรอเรียกครอบครัวสอบปากคำหาชนวนเหตุ

แพทย์วัย 26 ปี เจ้าของคลินิก ก่อเหตุแขวนคอฆ่าตัวตายเปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ไพรัช นิติธรรมจรรยา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.ปากคลองรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในรังสิตสหคลินิก ตั้งอยู่เลขที่ 250/55 หมู่ 6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังจากรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นตึกแถว 5 ชั้น อยู่ในหมู่บ้านรังสิตซิตี้ เปิดเป็นคลินิกรักษาโรคทั่วไป จากการตรวจสอบภายในอาคารดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ใช้เชือกไนลอนผูกคอตัวเองอยู่กับราวบันไดระหว่างชั้น 2-3

ข้างศพพบเก้าอี้กลมสีดำไม่มีพนักพิงวางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้เสียชีวิตมาชันสูตร ทราบชื่อคือ นายพันธกิจ จิวากานนท์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 170/256 หมู่ 3 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. พบว่าตามร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลหรือการถูกทำร้าย

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ด้าน น.ส.อภิณทร์พร กุลศักดิ์ภคนันท์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นคนพบศพคนแรก กล่าวว่า ผู้ตายเพิ่งจบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต จากนั้นศึกษาต่อเพิ่มเติมในสาขาเทคนิคการแพทย์จาก มหาวิทยาลัยรังสิตควบคู่กับการเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไป

ปกติผู้ตายจะตั้งใจทำงาน ไม่สุงสิงกับใคร แต่ละวันนอกจากรักษาคนป่วยแล้ว ก็จะเก็บตัวอยู่ภายในห้องแล็บ และไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นรับรู้เลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดผู้ตายจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

พ.ต.ท.ไพรัช นิติธรรมจรรยา สารวัตรเวรสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการงัดแงะเข้ามาของคนร้าย และคลินิกก็เปิดอย่างถูกต้องมีใบอนุญาตครบ สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องงานหรือมีปัญหากับทางบ้าน แต่ก็ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นอื่น ซึ่งได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยาศาสตร์ ศูนย์รังสิต พร้อมทั้งเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวมาสอบสวนและสืบหาสาเหตุต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก