แท็กซี่คลั่ง โมโหโดนด่าเรื่องทำเสียงดัง!! ขับรถชนตร.

แท็กซี่คลั่ง ขับรถชนตร.แล้วฉกปืนไปยิงคนตาย 2 ศพ เข้ามอบตัวแล้ว สารภาพโมโหโดนด่าเรื่องทำเสียงดัง

จากกรณีที่ นายอนุพงศ์ เรืองสวัสดิ์ โชเฟอร์แท็กซี่ รุ่นโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ทะเบียน 4963 กรุงเทพมหานคร

 ก่อเหตุขับรถแท็กซี่พุ่งชน ด.ต.จักรี พลาสิน ผบ.หมู่งานจราจร สภ.บางใหญ่ ขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยวัดพระเงิน ถนนกาญจนาภิเษก ขาออก มุ่งหน้า อ.บางใหญ่ ทำให้ ด.ต.จักรี ได้รับบาดเจ็บสาหัสศีรษะบวม มีเลือดออกหู และฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งรพ.พระนั่งเกล้า หลังชนตำรวจแล้วนายอนุพงศ์ได้ชิงอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ของด.ต.จักรีไปก่อเหตุ

จากนั้นนายอนุพงศ์ ได้ขับรถมุ่งหน้าไปยังหอพักจันทา ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

 ซึ่งเป็นหอพักที่เช่าอยู่ ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่ชิงมาจากตำรวจยิง นางสังวาล แท่นจันทา อายุ 50 ปี และนายสมชาย แท่นจันทา อายุ 52 ปี  สามี-ภรรยา เจ้าของหอพักจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปทางวัดบางโค ที่อยู่ห่างออกไป 1 กม. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่นายอนุพงศ์สามารถหลบหนีออกไปได้  เบื้องต้นคาดว่าสาเหคุเกิดจากนายอนุพงศ์ไม่พอใจที่ถูกผู้ตายตักเตือนเรื่องเปิดเพลงเสียงดัง  เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่17 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.00 น. ขณะที่ พ.ต.ท.สีหเดช สระกอบแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่สน.ตลิ่งชัน

 ได้มีกลุ่มชายและผู้หญิง จำนวน 5 คน แจ้งว่าเป็นผู้ต้องหาคดียิงคนตาย จำนวน 2 ศพในพื้นที่ จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีความประสงค์จะขอเข้ามอบตัวกับตำรวจที่สน.ตลิ่งชัน เนื่องจากเป็นโรงพักที่เงียบสงบ  จากนั้น ชายคนดังกล่าวได้แสดงบัตรว่ามีชื่อเป็นหลักฐานตรงกับชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปที่ห้องสืบสวน โดยมี พ.ต.ต.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน ร่วมทำการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจริง ตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน

นายอนุพงศ์ ได้กล่าวถึงสาเหตุ เนื่องจากตนกับผู้ตายเคยมีปากเสียงและมีเรื่องที่บาดหมางกันมาอย่างยาวนานโดยเมื่อตนทำเสียงดัง

 เจ้าของหอพักก็จะต่อว่าตนตลอด และช่วงเทศกาลสงกรานต์ตนเล่นกีตาร์อยู่ภายในห้องพัก ผู้ตายก็มาต่อว่าตน ว่าส่งเสียงดังรบกวน พอต่อว่าเสร็จทางผู้ตายก็ยังมีการกลั่นแกล้ง โดยการมารื้อค้นทำลายทรัพย์สินภายในห้องอีก ซึ่งตนได้แจ้งตำรวจหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มาตรวจสอบให้ จึงหมดความอดทนเลยตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ภายหลังก่อเหตุแล้ว ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ในวัดบางโค เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปิดล้อมเพื่อจะจับกุม ตนจึงหนีออกไปทางด้านหลังวัด

แล้วขึ้นจยย.รับจ้างออกไปต่อรถแท็กซี่ ขณะหลบหนีคิดในใจว่าจะไปหาญาติที่จ.เพชรบูรณ์ ในขณะที่อยู่ในรถแท็กซี่ ซึ่งคนขับรถเปิดฟังรายการวิทยุที่กำลังรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดล้อมอยู่วัดบางโค ตนจึงคิดว่าหนีรอดแล้ว  ก่อนไปลงที่ปั้มน้ำมันซัสโก้ ถนนสายเอเชีย ย่านบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และนำปืนไปโยนทิ้งเข้าพงหญ้าด้านหลังปั้มน้ำมัน และขึ้นรถตู้ โดยตั้งใจว่าจะไปหาญาติที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่พอรถวิ่งไปถึง อ.หนองบัว  ตนกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ จึงโทรศัพท์ติดต่อพี่สาวให้พามามอบตัว ที่สน.ตลิ่งชัน เพราะเป็นเส้นทางผ่าน เพื่อกลับบ้านพักบ่อยๆ  เห็นว่าบรรยากาศเงียบสงบดีจึงเข้ามอบตัวที่สน.นี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ถ่ายสำเนาใบขับขี่ชนิดที่ 2 (ทุกประเภท) ของนายอนุพงศ์ ไว้
ก่อนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน  พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน นำตัวนายอนุพงศ์ไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุที่ปั๊มน้ำมันตามคำให้การจนพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมควบคุมตัวส่ง สภ.บางแม่นาง เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์