โดยจับกุมได้ที่หน้าโรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอคองคอร์ด ถ.รัชดา ภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.
ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ในชุดคล้ายกัปตันการบินไทย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงสแล็กส์สีน้ำเงิน รองเท้าหนัง ปกเสื้อเชิ้ตด้านซ้ายมีรูปสัญลักษณ์การบินไทย ปกเสื้อด้านขวาเป็นรูปเครื่องบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นไปตรวจค้นห้องพัก หมายเลข 1931 ชั้น 19 ของโรง แรมสวิสโฮเต็ล เลอคองคอร์ด จากการตรวจ ค้นพบเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ชุดสูท บั้งแถบคล้ายกัปตันการบินไทย 2 บั้ง นามบัตรระบุชื่อนายรัฐศาสตร์ แจ่มเจริญชัยนนท์ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องบิน และยังพบนามบัตรอีก 5-6 ชื่อ รูปถ่ายที่ถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ คู่กับหญิงสาวสวมชุดนักบิน สมุดเงินฝากธนาคารกรุงไทย มีเงินฝาก 1,800,000 บาท จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่สน.ห้วยขวาง
นายรัฐศาสตร์ให้การว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด ตนไม่เคยโกงค่าห้องพัก มีปัญญาจ่ายสบายๆ อยู่แล้ว โรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพฯเคยเข้าพักมาหมดแล้ว
โดยที่บ้านทำกิจการเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง เหตุที่ออกมาจากบ้านเพราะทะเลาะกับพ่อ จึงไม่ได้กลับบ้าน แต่จะพักตามโรงแรมต่างๆ แทน โดยมียายคอยส่งเงินให้ ส่วนที่แต่งกายเช่นนี้เพราะอยากแต่งชุดนี้เท่านั้น ทำไมพวกที่เล่นบีบีกันมีอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไปจับ ตนชอบแต่งชุดแบบนี้ ซึ่งไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับหนังสือพิมพ์ข่าวสด เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2551 เรื่องที่ผู้ต้องหาแอบอ้างกับผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่งว่าสามารถฝากเด็กเข้าศึกษาต่อระดับชั้นม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จนกระทั่งผู้ปกครองหลงเชื่อเสียเงินไปหลายแสนบาท จากนั้นเมื่อเปิดเทอมเด็กคนดังกล่าวเข้าไปเรียน แต่ปรากฏว่าทางโรง เรียนแจ้งว่าไม่มีชื่อของเด็กคนดังกล่าวจึงไม่ยอมให้เรียน ผู้ปกครองต้องเสียเงินหลายแสนบาท และแจ้งความไว้ที่สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
ขณะเดียวกันเว็บไซต์ www.hoseg.net ของชมรมผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยโรงแรม เผยแพร่พฤติกรรมของผู้ต้องหาแจ้งไปยังโรงแรมต่างๆ ว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลต้องห้าม
โดยจะแต่งกายภูมิฐาน อ้างเป็นนักบินที่ 2 ของการบินไทย ติดต่อเข้าพักโรงแรม 1 คืน โดยไม่ให้บัตรประจำตัวประชาชน ต่อมาผู้ต้องหาขอเปลี่ยนเป็นพักรายเดือน โดยจ่ายค่าที่พักเป็นเช็คส่วนตัว แต่ทางโรงแรมไม่สามารถนำไปขึ้นเงินได้ และระหว่างที่พักอยู่มักสวมแว่นตาดำตลอดเวลา และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่โรงแรมทำ ความสะอาดห้องพัก มีโรงแรมหลายแห่งหลงเชื่อได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นที่ระวังของโรงแรมต่างๆ อยู่ในขณะนี้ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจสน.ห้วยขวางส่งตัวไปที่สภ.ชะอำ เพชรบุรี เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับ อย่างไรก็ตาม ผู้ใดหรือสถานประกอบการใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวติดต่อขอดูรูปถ่ายผู้ต้องหาได้ที่สน.ห้วยขวาง เพื่อดำ เนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
