แตกตื่น! ไฟไหม้สถาบัน เอยูเอ เก่ากลางเมือง

แตกตื่น! ไฟไหม้สถาบัน เอยูเอ เก่ากลางเมือง

ไฟไหม้สถาบัน "เอยูเอ" เก่าวอด เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ไม่กล้าเข้าไปเคลียร์พื้นที่เพราะเป็นอาคารเก่าและมีรอยร้าว หวั่นเกิดอันตราย เตรียมประสาน พฐ. หาสาเหตุ

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 20 ก.พ. ร.ต.อ.นวพล พิทักษ์พีระพันธ์ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี

รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารโรงเรียนสถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา หรือ เอยูเอ เลขที่ 179 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.อัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี พร้อมทั้งประสานรถกระเช้าและรถน้ำดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงใกล้เคียงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุประมาณ 15 คัน และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้างอยู่ระหว่างการรื้อถอน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและเพลิงลุกไหม้จากชั้น 2 ของห้องโถงขนาดใหญ่ด้

านหลังซึ่งเดิมใช้สำหรับเป็นห้องประชุม จึงรีบฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงโดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายภายในอาคารได้ เนื่องจากเป็นอาคารเก่า และเริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้นบ้างจึงอาจเป็นอันตรายได้

จากการสอบสวนนายนริศ พันธ์ทา อายุ 62 ปี รปภ.ของบริษัทเจเนอรัลการ์ด กรุ๊ป ให้การว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารร้างอยู่ระหว่างการรื้อถอน
 
เนื่องจากทางเอยูเอได้ย้ายไปอยู่ที่จามจุรีสแควร์แล้ว โดยทางสถาบันเอยูเอได้ว่าจ้างให้บริษัทตนมาเฝ้าอยู่ที่อาคารแห่งนี้ โดยเฝ้ามาได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่บริเวณชั้นล่าง จากนั้นก็เห็นกลุ่มคัวนเป็นสีดำพวยพุ่งออกมาก จึงรีบนำถังดับเพลิงจะเข้าไปเข้าไปดับไฟแต่กลุ่มควันหนาแน่นมาก จึงรีบแจ้งตำรวจทันที ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่ก่อนเกิดเหตุมีช่างกำลังทำการตัดท่อแอร์โดยใช้แก๊สกันอยู่

ด้าน พ.ต.ท.อัครวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุมีช่างกำลังใช้แก๊สตัดท่อแอร์กันอยู่ภายในอาคารที่เกิดเหตุ จึงเตรียมนำตัวไปสอบปากคำว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร และในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) เตรียมประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป

ขณะที่ นางจงกลลักษณ์ อินทุลักษณ์ ผอ.สำนักงานเขตปทุมวัน กล่าวว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเก่าอยู่ระหว่างการรื้อถอน

ต้นเพลิงเป็นห้องโถงเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานโยธาเขตปทุมวัน จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุรวมถึงโครงสร้างของตัวอาคาร หากพบว่าที่เกิดเหตุมีพื้นที่เกิน 1 ไร่ ก็จะประกาศเป็นพื้นที่เพลิงไหม้ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป หากไม่ถึงก็จะประกาศเป็นพื้นที่อันตราย รวมถึงจะมีการตรวจสอบว่า มีการขออนุญาตรื้อถอนอาคารถูกต้องหรือไม่ ส่วนรอยร้าวตามพนังอาคารที่พบนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรอยร้าวที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งก่อน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์