แฉวิศวะโดดตึก ป่วยโรคทางจิต

"รับศพลูกทั้งน้ำตา"


จากเหตุสะเทือนใจพ่อแม่ หลังนายกิตติพันธ์ หรือเอ็กซ์ บำรุงการ อายุ 24 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อเหตุกระโดดพุ่งหลาวจากดาดฟ้าหอพักนักศึกษา สูง 14 ชั้น ลงมากระแทกพื้นคอหักเสียชีวิต โดยอาจารย์ปกครองระบุ สงสัยเป็นเพราะเครียดจัด เหตุเกิดภายในจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ด้านจุฬาซอย 12 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. หลังเที่ยงคืนเล็กน้อย ของวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่ ไทยรัฐ เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา นายมาโนช และนางอรอุมา บำรุงการ พ่อและแม่ของนายกิตติพันธ์ น.ส.ธวัลพร บำรุงการ อายุ 22 ปี น้องสาว คณะอาจารย์ และกลุ่มเพื่อน เดินทางมารับศพท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ทันทีที่นางอรอุมาเห็นศพบุตรชาย ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น ร่ำไห้อย่างไม่อายใคร โดยผลชันสูตรแพทย์ระบุว่า ซี่โครงหัก กระดูกสันหลังระดับคอหัก ปอด ตับ และม้ามแตก เนื่องจากร่างกายถูกกระแทกจากของแข็งไม่มีคม

หลังคลายความเศร้าได้ระดับหนึ่ง นางอรอุมากล่าวว่า ทางบ้านมีอาชีพทำสวนยางพารา มีลูกชายลูกสาว 2 คน คนตายเป็นคนโต ก่อนหน้าไม่มีลาง สังหรณ์อะไร โดยช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ลูกชายยังโทรศัพท์ ให้โอนเงินไป 8,000 บาท เป็นค่าทำฟัน น้ำเสียงก็ไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งอาจารย์ที่จุฬาฯโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายกระโดดตึกเสียชีวิตแล้ว ถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะคิดสั้น ก่อนมารับศพได้ไปดูที่เกิดเหตุ พูดคุยกับ รปภ. ทราบว่า เห็นลูกชายยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ชั้น 1 ได้ยินเสียงคล้ายกำลังทะเลาะกับใครอยู่ จากนั้นหายไป มาทราบอีกครั้งเมื่อกระโดดลงมาเสียชีวิตแล้ว ส่วนเรื่องแฟนสาว ทราบว่าเป็นรุ่นน้องนิสิต คณะอักษรศาสตร์ ปี 3 สถาบันเดียวกัน ชื่อเล่นว่าลี แต่ไม่แน่ใจว่ามีปากเสียงกัน ถึงขั้นเกิดเหตุ ดังกล่าวด้วยหรือไม่

"แจงเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง ต้องดูแลใกล้ชิด"


นางอรอุมากล่าวต่อว่า ลูกชายเคยเรียนคณะวิทยาศาสตร์มา 1 ปี ก่อนเอ็นทรานซ์ใหม่ เข้าคณะวิศวะ ซึ่งเป็นคณะที่ชื่นชอบ ทราบว่าเรียนยาก แต่ได้บอกลูกชายว่าแค่ให้ผ่านหรือจบช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร คิดว่าอาจมีความเครียดเรื่องการเรียน เนื่องจากน้องสาวใกล้จบการศึกษาในอีก 1 เดือน และได้เกียรตินิยมด้วย อาจทำให้ กดดัน ทั้งๆที่ผ่านมาได้บอกลูกชายตลอดว่าไม่ต้องเครียด พ่อแม่เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว ล่าสุดได้ซื้อที่ดินใน จ.ชุมพร 100 ไร่ ไว้ให้หลังจากจบการศึกษา สำหรับศพลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมศพ 7 วัน ที่วัดวิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร

นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตจุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมาก เพราะเคยดูแลผู้ตายมาตั้งแต่เรียนปี 1 กระทั่งต้นปี 2547 พฤติกรรมนายกิตติพันธ์เปลี่ยนไป มีความคิดเฉพาะตัว และต้องการพักการเรียน ทางคณะได้เข้าพูดคุยพาไปพบนักจิตวิทยา และจิตแพทย์ สรุปว่า เป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง แต่ไม่น่าเป็นห่วง ขอให้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้น นายกิตติพันธ์ ผ่านการสอบในชั้นปี 1 ด้วยดี และยกเลิกความคิดพักการเรียน

ทุกอย่างเป็นปกติ จนเข้าสู่ชั้นปีที่ 4 ประมาณเดือน ส.ค. 2549 เริ่มปรากฏอาการอีกครั้ง คุณแม่ของผู้ตายก็รับทราบ ให้ความร่วมมือเกลี้ยกล่อมให้ไปพบจิตแพทย์ แต่ผู้ตายไม่ยอมทานยา เพราะถือว่าไม่เป็นผู้ป่วย คณบดีคณะวิศวะจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจดูแลสุขภาพจิตผู้ตายโดยเฉพาะ พร้อมทั้งให้มาพักอยู่ในหอพักภายในมหาวิทยาลัย โดยพักอยู่กับเพื่อนอีก 3 คน ที่ชั้น 3 คิดว่าดูแลระมัดระวังอย่างดี แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

"เกิดเรื่องขึ้นจนได้แม้จะให้ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว"


ด้านนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า จากการสอบถามอาจารย์ที่ปรึกษาผู้ตายทราบว่า คะแนนสอบภาคเรียนนี้ของนายกิตติพันธ์ไม่ดีนัก โดยลงทะเบียนเรียน 3 วิชา มี คะแนนไม่ค่อยดีถึง 2 วิชา อาจารย์ที่ปรึกษาได้เข้าดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น จัดติวพิเศษ และให้ย้ายเข้ามาอยู่ในหอพักชายในมหาวิทยาลัย เพื่อจะดูแลให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

สำหรับมาตรการการดูแลนิสิตเกี่ยวกับการเรียนนั้น นายดิเรกกล่าวว่า การเรียนคณะวิศวะค่อนข้างหนัก จึงวางแนวทางดูแลนิสิตตั้งแต่เข้าเรียนชั้นปี 1 โดยจะดูผลการเรียนตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 หากเห็นว่าคะแนนไม่ดี จะจัดชั่วโมงติวเพิ่มเติม รวมทั้งติดตามคะแนนการเรียนการสอบไปเรื่อยๆ หากเห็นความผิดปกติ จะให้อาจารย์ที่ปรึกษาเข้าไปดูแล ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ไม่ว่าจะเกิดความเครียดเรื่องการเรียนหรือไม่ ได้สั่งการให้ฝ่ายทะเบียนของคณะ นำคะแนนการเรียนและผลการสอบของนิสิตทุกคนมาพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ จะพิจารณาด้วยว่า มาตรการดูแลนิสิตที่ทำอยู่เพียงพอหรือไม่ หากมีจุดบอด จะได้หามาตรการเสริม เพื่อจะได้ไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นมาอีก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์