แฉจนท.สาวรพ.ปลอมลายเซ็นผอ.ซื้อยาซูโด

แฉจนท.สาวรพ.ปลอมลายเซ็นผอ.ซื้อยาซูโด

จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พบซองยาแก้หวัดชนิดต่างๆจำนวนมากถูกทิ้งไว้ในป่าไมยราบ ริมถนนสายซุปเปอร์เชียงใหม่-สันกำแพง บ้านน้อย หมู่ 11 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นับรวมได้ 39 ถุง ข้างในเป็นซองยาแก้หวัดชนิดต่างๆ เช่น ซูลีดีน นาซิเฟด ฟาเฟด ซินูเฟด แอนติเฟด โพลิเฟด นาโซลีน มิลาเฟด และโคเฟด และยังมียี่ห้ออื่นๆอีกหลายชนิด โดยก่อนหน้านั้นก็พบซองยาแก้หวัดและตัวยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารที่ใช้ ผลิตยาเสพติด ที่ต.บ้านกลาง อ.สันกำแพงกว่า 1 ล้านเม็ด  โดยเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าซองยาดังกล่าวมีที่มาจากที่ใด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันนี้( 3 เม.ย.) พ.ต.ท.สามารถ บุญตันสา รองผกก.สส.สภ.ช้างเผือก  จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าทาง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา จากส่วนกลางพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เข้าตรวจค้นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ หลังตรวจพบว่ามีการสั่งซื้อยา "ซูโดอีเฟดรีนเดี่ยว" ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมตัวยาชนิดอื่นมากผิดปกติกว่า 1 แสนเม็ด โดยตัวยาตัวนี้เป็นยาควบคุมประเภท 2 ซึ่งโรงพยาบาลต้องขออนุญาตโดยตรงต่อ อย. จึงจะสั่งซื้อได้ โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่ายาซูโดอีเฟดรีนเดี่ยว มีใบสั่งซื้อออกมาจากโรงพยาบาลดังกล่าว จำนวนสั่งซื้อ 1 แสนเม็ด แต่ยาไม่เข้าสู่โรงพยาบาล โดยคนสั่งซื้อเป็นเพียงพนักงานหญิงคนหนึ่งที่ทำงานภายในโรงพยาบาล และมีการปลอมลายเซ็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในการสั่งซื้อ เมื่อสั่งซื้อแล้วกลับไม่นำยาเข้าโรงพยาบาลแต่นำยาไปทางอื่น คดีนี้เราก็รับเรื่องไว้และจะทำการสอบสวนอย่างละเอียด หาหลักฐานทั้งหมดและส่งเรื่องต่อไปให้ทางดีเอสไอดำเนินการ เพราะทางดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยการสอบสวนเบื้องต้นทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ไม่รู้เรื่องการสั่งยานี้ และเมื่อตรวจสอบเอกสารก็พบว่าหลักฐานใบสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน นี้จากบริษัทผลิตยาก็เป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด จึงเชื่อแน่ว่าพนักงานหญิงของโรงพยาบาลจะต้องเกี่ยวข้องกับเครือข่ายผลิตยา เสพติดในประเทศเพื่อนบ้านแน่ และจะมีการเร่งสอบสวนเพื่อออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายในเร็วๆนี้

หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีของการพบแผงยาซูโดอีเฟดรีน และมีการขยายผลไปตามโรงพยาบาล และร้านขายยา จนทำให้ทราบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้างนั้น ในขณะนี้ก็ทราบมาบ้างแล้วและอยู่ในช่วงการดำเนินการ เพราะเท่าที่ทราบมาก็ได้บอกอ้างว่า สั่งมาก่อนที่จะมีการกำหนดว่าเป็นยาอันตราย บ้างก็บอกว่ายังไม่ได้ส่งคืนให้กับบริษัทด้วยสาเหตุอื่นๆ  จึงทำให้ต้องเก็บรักษาอยู่ในโกดังบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องชี้แจงและใช้พิจารณาด้วยเหตุและผล แล้วรายงานให้กับทางส่วนกลาง และทางจังหวัดทราบ หากทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะคลี่คลาย  สำหรับตัวยาชนิดนี้เคยเป็นยาที่ได้รับความนิยมชมชอบ เพราะทุกคนก็เคยทานมาแล้ว ทั้งยาแก้ไอ ยาแก้ไข้หวัด แพ้อากาศ อยู่ๆ ก็กลายเป็นยาอันตราย ยาต้องห้ามไป ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่บางพื้นที่ยังคงเล็ดลอดอยู่ ซึ่งต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ทางคณะทำงานได้ตั้งเป้าไว้ 1 เดือน แต่ถ้าเร็วกว่านั้นได้ก็เป็นเรื่องดี ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับทาง ผบช.ภ.5 ทาง อย. และทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดว่าภายในระยะเวลา 1 เดือนก็อยากให้เห็นเป็นรูปธรรม และมีอะไรที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้เมื่อไปตามร้านขายยาต่างๆ ก็จะเห็นว่ายาชนิดนี้เป็นยาต้องห้ามไปแล้ว หากต้องการก็ต้องมีใบสั่งแพทย์มา และถ้าร้านขายยา หรือคลีนิคไหน ยังคงรักษาไว้ ก็ต้องอธิบายให้ได้ด้วยเหตุและผล ซึ่งขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของเฉพาะในจังหวัดหนึ่งจังหวัดใด และที่มาของปัญหานี้ก็คือโดยแท้จริงแล้ว ยาตัวนี้มีการจำหน่ายโดยทั่วไป มีจำนวนมากในทุกพื้นที่ ก็ต้องเร่งกันคลี่คลายปัญหาในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

ทันตแพทย์สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรง พยาบาลเอกชนที่ทางเจ้าหน้าที่อย.บุกเข้าตรวจสอบนั้นเป็นหน้าที่โดยตรงของทา งอย.เพราะการสั่งซื้อยาซูโออีเฟดรีนเดี่ยวนั้น ทางโรงพยาบาลจะต้องสั่งซื้อกับทางอย.โดยตรงเท่านั้น ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่มีการสั่งซื้อจำนวนมากทางอย.ก็เข้ามา ตรวจสอบและพบว่าไม่มียาเข้าโรงพยาบาลมีคนยักยอกนำยาไปใช้ทางอื่น การสอบสวนตรงนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะสืบสวนสอบสวน ให้ได้ว่ายาไปไหน ส่วนกรณีโรงพยาบาลอื่นๆ ในส่วนของเอกชนทาง อย.ก็จะเข้ามาตรวจสอบทุกแห่งว่าปัญหาอะไรอื่นหรือไม่ ส่วนกรณีของโรงพยาบาลรัฐในจังหวัดเชียงใหม่ทางสาธารณสุขตรวจสอบหมดแล้วๆไม่ มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องซองยาแก้หวัดที่พบจำนวนมากที่พื้นที่ อ.แม่อาย อ.สันกำแพง นั้นตอนนี้ทางเราและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังรอการตรวจสอบว่ายาเหล่านั้น เป็นของบริษัทไหนบ้างส่งขายไปให้ใครบ้างคงต้องรอภายในอาทิตย์นี้คงจะทราบ ข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปสืบสวนต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์