แฉ ตร.ซ้อม! คดีฉกเด็ก เมียน้อยโวยลั่น รองเท้าตบหน้า ให้รับสารภาพ

แฉ ตร.ซ้อม! คดีฉกเด็ก เมียน้อยโวยลั่น "รองเท้าตบหน้า" ให้รับสารภาพ

สาครผู้ต้องสงสัยคดีลักเด็กแฝด แฉอาญาเถื่อน ตร.ลพบุรี-อุดรธานี ซ้อมให้รับสารภาพ-ถอดรองเท้าตบหน้า ได้พบ "ปวีณา" จึงกลับคำให้การ ขณะชุดสืบสวน "ปดส." มึนตึ้บ หลังพบฝ่ายพ่อเด็กยังมี "กิ๊ก" อีกเพียบ เร่งสอบเพิ่มหลายประเด็น ผบก.ปดส. ตรวจยิบ "ด่านตม.สะเดา" เกาะรอยเส้นทาง "แกะลักเด็ก" ส่งเทปให้ "กันตนา" ใช้เทคโนโลยีขยายภาพวงจรปิด พร้อมส่งชุดสืบสวนหาตัวหญิงต้องสงสัยอีกราย ส่วน รพ.ลพบุรี ล้อมคอกเข้มป้องกัน

จากกรณีสาวแสบสวมชุดกาวน์ปลอมตัวเป็นแพทย์ บุกเข้าไปใน รพ.ลพบุรี และชิงเอาเด็กฝาแฝดผู้น้อง คือ "น้องแนน" วัย 5 วันไปจากอ้อมอกพ่อแม่ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจลพบุรี ร่วมกับกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กและสตรี (ปดส.) และ มูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เข้าช่วยคลี่คลายคดี กระทั่งมีการออกหมายจับ และควบคุม ตัว น.ส.สาคร คำโต อายุ 24 ปี ภรรยาน้อยของบิดาเด็กแฝด แต่เรื่องราวได้กลับตาลปัตรอย่างยุ่งเหยิง เมื่อฝ่าย น.ส.สาครได้กลับคำรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ทำไปเพื่อประชดสามีที่ไม่ไยดี และกลัวว่ามารดาจะถูกจับกุม โดยล่าสุด น.ส.สาคร ยังออกมาแฉว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย ตามที่ "เดลินิวส์" ได้นำเสนออย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ที่ บก. ปดส. เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. ได้เรียกชุด สืบสวน บก.ปดส. ประกอบด้วย พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ผกก.ฝอ.บก.ปดส. พ.ต.ท.อดิรักษ์ ฉิมเฉิด รอง ผกก.2 บก.ปดส. พ.ต.ท.ชาคร ศรีวัฒนประยูร สว.กก.3 บก.ปดส. พ.ต.ต.อุเทน นุ้ยพิน สว.กก.1 บก.ปดส. ร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางการ สืบสวนติดตามหาตัว "น้องแนน" แฝดผู้น้อง บุตรสาวนายสุพรต ขันทองดี และนางราตรี ตระกาน จันทร์ ซึ่งถูกหญิงร่างอ้วนขโมยไปจาก รพ.ลพบุรี และหายตัวไปนานถึง 5 วัน โดยไม่ทราบชะตากรรม

ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง บก.ปดส. ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งไปโดยเฉพาะข้อสงสัยในตัว น.ส.สาคร คำโต เมียน้อยนายสุพรต ซึ่งก่อนหน้านี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อยุติในประเด็นต่าง ๆ เสียก่อน ล่าสุดพบข้อมูลว่านาย สุพรตนั้นมีเพื่อนสาวอีกหลายคน ซึ่งต้องสอบสวนในประเด็นนี้ด้วยว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่การหายตัวไปของน้องแนนเกิดจากความโกรธ แค้นของเพื่อนสาว ซึ่งต้องตรวจสอบประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อตัดข้อสงสัยต่าง ๆ ทิ้งไป

ส่วนเบาะแสคนร้ายซึ่งขณะนี้มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนนำภาพผู้ต้องสงสัยไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาพและคอมพิว เตอร์เพื่อให้ช่วยขยายภาพถ่ายที่บันทึกได้จาก กล้องวิดีโอวงจรปิดของ รพ.ลพบุรี โดยขอความร่วมมือไปยังบริษัทกันตนาในการนำเทคโนโลยีชั้นสูงมาช่วยขยายภาพผู้ต้องสงสัยให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนมากกว่านี้เพื่อจะได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสจากประชาชนต่อไป

ผบก.ปดส. กล่าวอีกว่า หลังจากมีการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสคนร้ายก็มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยพลเมืองดีบางรายแจ้งว่าเคยมีหญิงสาวรูปร่างใกล้เคียงกับผู้ต้องสงสัย มาติดต่อขอรับลูกไปอุปการะแต่ก็ไม่ได้ให้ไป นอกจากนี้ยังมีเบาะแสเกี่ยวกับการมาขอเด็กไปอุปการะอีกหลายรายโดยแต่ละรายมีเกิดขึ้นทั้งในจ.ลพบุรี และใกล้เคียง

"ขณะนี้เรากำลังเร่งติดตามหาตัวคนร้ายที่แท้จริงมาดำเนินคดีและที่สำคัญคือเรามีความเป็นห่วงในตัวความปลอดภัยของเด็กเป็นอย่างมาก ส่วนกรณี น.ส.สาครอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของ ปดส. ทำร้ายร่างกายนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าทำเพื่ออะไร" พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าว และว่าชุดสืบสวน ปดส. ยังได้ประสานงานไปยังตำรวจภูธร และด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอ สะเดา จ.สงขลา ให้ช่วยตรวจสอบว่าหลังจากเกิดเหตุมีบุคคลต้องสงสัยรายใดเดินทางออกนอกประเทศพร้อมเด็กแรกเกิดหรือไม่ เนื่องจากมีข้อมูลเบาะแสบางอย่างเชื่อได้ว่าหากเป็นฝีมือของแก๊งลักเด็ก ก็มักจะลักลอบนำตัวเด็กเดินทาง ออกนอกประเทศผ่านด่านดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวน ปดส. ได้ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี อีกครั้งเพื่อตามหาพยานรายหนึ่งหลังจากได้เบาะแสมาว่าพยานคนดังกล่าวเคยเห็นหญิงสาวคนหนึ่งใช้กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงซึ่งใกล้เคียงกับกระเป๋าสะพายของผู้ต้องสงสัยในภาพวิดีโอวงจรปิดจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเบาะแสจากของกลางเป็นเสื้อกาวน์คล้ายชุดปฏิบัติงานของแพทย์นั้น เบื้องต้นชุดสืบสวน ปดส. เชื่อว่าน่าจะเป็นเสื้อที่ช่างตัดผมใช้มากกว่าแต่เมื่อตรวจสอบตามร้านค้าใน จ.ลพบุรีแล้วพบว่าเป็นคนละยี่ห้อกันกับเสื้อกาวน์ของกลางที่พบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.ต.ต. คำรณวิทย์ สั่งการให้ พ.ต.ต.อุเทน นำกำลังไปตรวจสอบประเด็นที่มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาว่าเคยให้ลูกไปอยู่ในการอุปการะของหญิงสาวคนหนึ่งที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งจากตรวจสอบประวัติและรูปพรรณแล้วใกล้เคียงกับผู้ต้องสงสัยแต่เมื่อไปถึงบ้านพักแล้วหญิงคนดังกล่าว ได้นำเอกสารการขอรับเลี้ยงเด็กมาอย่างถูกต้อง และ มีพยานยืนยัน จึงตัดข้อสงสัยในประเด็นนี้ไปได้

ความเคลื่อนไหวอีกด้านที่ จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน น.ส.สาคร คำโต อายุ 24 ปี พร้อมนางอัมพร นามวรรณ อายุ 49 ปี มารดาและญาติรวม 4 คน ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ ต่อสื่อมวลชลเพื่อขอความเป็นธรรม จากการที่ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ลพบุรี บางนายทำร้ายร่างกาย อย่างป่าเถื่อนระหว่างการควบคุมตัวไปดำเนินคดี

น.ส.สาครระบุว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากลพบุรีจำนวน 3 นาย และตำรวจเมืองอุดรธานีอีก 1 นาย มารับตนและมารดาไปจากบ้านพักเพื่อไปสอบปากคำที่ สภ.อ.เมืองอุดรธานี ตลอดระยะเวลาการสอบปากคำตนได้ปฏิเสธโดยตลอดว่าไม่ได้เป็นผู้นำเด็กไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมได้พาตนและมารดาไปสอบปากคำที่บ้านแถวตลาดรังษินาในตัวเมืองอุดรธานี ซึ่งตนได้ปฏิเสธทำให้ตำรวจไม่พอใจ ข่มขู่ตนด้วยวาจาหยาบคาย เช่น "มึงรับสารภาพมาว่าเอาเด็กไปไว้ไหน" ต่อมาได้มีนายตำรวจที่เป็นสารวัตรเดินทางมาถึง และได้ถอดรองเท้าหนังออกมาตบหน้าตนทั้งซ้ายและขวารวม 3 ที ส่วนที่เหลือได้เข้ามาซ้อม ทุบตีตนตามร่างกายจนช้ำ และยังขู่ว่าต้องเข้าคุกพร้อมกับแม่ ตนจึงต้องยอมรับสารภาพโกหกว่าเอาเด็กไปทิ้งตามที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการถูกซ้อม "พอหนูได้พบกับคุณปวีณา หนูมีโอกาสจึงกลับคำให้การ และรู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของตำรวจ หนำซ้ำเมื่อได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน ยังถูกตำรวจขู่ว่าห้ามบอกใคร ให้บอกทุกคนว่าตำรวจบริการดี หนูจึงมาปรึกษาญาติและเข้าร้องเรียนสื่อมวลชนในที่สุด" น.ส.สาครกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.เขมณัส สุขเจริญ ผบก. ภ.จว.อุดรธานี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.สาคร พาดพิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองอุดรธานี มีส่วน ร่วมทำร้ายร่างกายว่ายังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ทราบว่าการคลี่คลายคดี มีชุดเจ้าหน้าที่จาก บก.ปดส. เข้าคลี่คลายคดีเป็นหน่วยหลัก คอยประสานความร่วมมือจากตำรวจในพื้นที่อยู่เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.สาครต้องการแจ้งความเอาผิด ตนก็พร้อมจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดเข้าร่วมการจับกุมในวันเกิดเหตุบ้าง และยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก รพ. ลพบุรี ว่า นายสมคิด เอื้ออภิสิทธิ์วงศ์ ผอ.รพ. ลพบุรี ได้เชิญคณะแพทย์ และหัวหน้าพยาบาล ประชุมวางแนวทางการป้องกันเหตุคนร้ายเข้ามาขโมยเด็ก ที่ตึกอำนวยการ รพ.ลพบุรี ได้ข้อสรุปว่าจะมีการจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยในแต่ละตึกเพิ่มมากขึ้น ส่วนญาติที่เข้าเยี่ยมและเฝ้าผู้ป่วยจะต้องติดบัตรให้เห็นเด่นชัด และแพทย์จะต้องแต่งกายมียูนิฟอร์มเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ต่อมาเวลา 17.30 น. พ.ต.ต.อุเทน สว.กก.1 บก.ปดส. พร้อมกำลังเดินทางไปยัง รพ.ลพบุรี เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดลพบุรีเข้าสุ่มตรวจหารอยนิ้วมือแฝงตามจุดต่าง ๆ ที่คนร้ายผ่านเข้าออก ทั้งประตูห้องพัก บันไดทางหนีไฟ รวมทั้งหนังสือที่คนร้ายหยิบอ่าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส. ได้เข้าสอบปากคำพยานตามเส้นทางที่เชื่อว่าคนร้ายใช้หลบหนีอีกครั้ง รวมทั้งจุดที่คนร้ายนำเสื้อคลุมมาทิ้งไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน มาทำการตรวจสอบต่อไป.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์