แค่ขับรถเฉี่ยวกัน ถึงยิงตายคาซอย

"เข้าราวนมกระสุนฝังใน"


เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.ปภาณ วงศ์ชนเดช สารวัตรเวร สภ.ย่อยบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายในซอยคลองอาเสี่ย ถนนพุทธรักษา หมู่ 5 ต.บางปูใหม่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผกก.หน. สภ.ย่อยบางปู พ.ต.ท.ณัฎฐวัชร์ ปุ้งโพธิ์ สวป. พ.ต.ท.วิชิต บุญชินวุฒิกุล สว.สส. แพทย์เวร รพ.สมุทรปราการ นำกำลัง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุห่างจากปากซอยราว 50 เมตร พบรถปิกอัพโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 1904 สมุทรปราการ จอดหันหัวเข้าไปทางท้ายซอย ไฟท้ายด้านซ้ายแตก กระบะด้านซ้ายมีรอยถูกเฉี่ยวชนครูดเป็นทางยาว ห่างจากหน้ารถ 2 เมตร มีศพนายสุวิทย์ แย้มอินทร์ อายุ 38 ปี เจ้าของรถ และเป็นลูกจ้างประจำโรงเรียนนายเรือ อยู่บ้านเลขที่ 469/701 หมู่ 5 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีเทา ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าราวนมซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน นอนหงายเลือดทะลัก เก็บปลอกกระสุนปืนสื่อมรณะได้ 1 ปลอก

"เรียกลงมาคุย"


สอบสวนนายสุรัตน์ คุณาคุณ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์จะออกไปซื้อกับข้าวที่ปากซอย เห็นนายสุวิทย์ขับรถมาจากถนนพุทธรักษาเลี้ยวเข้ามาในซอย แล้วมีรถปิกอัพอีซูซุรุ่นดราก้อนอายส์ สีบรอนซ์เงิน จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขับตามเข้ามาแล้วแซงปาดหน้าบังคับให้นายสุวิทย์จอดรถจากนั้นคนขับรถคันดังกล่าวเป็นชายผิวขาว สูงราว 170 ซม.

สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีน เดินลงจากรถเรียกให้นายสุวิทย์ลงมาคุยกันว่าทำไมขับรถอย่างนี้ นายสุวิทย์จึงเปิดประตูลงมาคุยกับชายคนดังกล่าว แล้วมีปากเสียงเถียงกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด

"ตกลงกันไม่ได้"


แต่ตนไม่ได้สนใจ ขี่รถเลยผ่านไป หลังจากนั้นราว 5-10 นาที ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นพอขี่รถย้อนกลับมาก็พบนายสุวิทย์ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนคู่กรณีหายไปแล้ว

ทางด้าน พ.ต.ท.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผกก.หน. สภ.ย่อยบางปู เปิดเผยว่า จากการสอบสวนสันนิษฐานว่านายสุวิทย์กับคู่กรณี อาจขับรถเฉี่ยวชนกัน แล้วนายสุวิทย์ขับรถหนีเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุโดยไม่ได้จอดรถตกลงค่าเสียหายกัน คู่กรณีขับตามมาทัน ปาดหน้าเรียกให้ลงมาคุยกัน แต่ตกลงกันไม่ได้ แล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้คู่กรณีบันดาลโทสะชักปืนยิงนายสุวิทย์ ตายคาที่แล้วหนีไป ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมชายคู่กรณีคนดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์