แก๊งปากระจกโผล่ที่แพร่ ซัดรถทัวร์เกือบพลิกคว่ำ

เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (30 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุแก๊งปากระจกโผล่อีกในพื้นที่ จ.แพร่ ทำให้รถทัวร์สายเชียงคำ-กรุงเทพฯ เกือบพลิกคว่ำ โชคดีคนขับตั้งสติได้แม้จะได้รับบาดเจ็บก็ตาม  

โดยนายไสว มโนนึก คนขับรถทัวร์ของบริษัท ขนส่ง จำกัด สายเชียงคำ-กรุงเทพฯ เล่าเหตุการณ์ที่ถูกแก๊งวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ปาขวดเบียร์ใส่กระจก ขณะขับมาถึงบ้านกอเปา หลักกิโลเมตรที่ 127-128 ถนนยันตรกิจโกศล บ้านทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ จนได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษกระจกบาด แต่โชคดีตั้งสติได้จึงนำรถจอดข้างทาง
ขณะที่ผู้โดยสารทั้ง 25 คนปลอดภัย แต่รถไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากกระจกหน้าด้านคนขับแตกร้าว จึงต้องขนถ่ายผู้โดยสารเปลี่ยนไปยังรถคันอื่น สำหรับจุดเกิดเหตุพบว่า เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับตัววัยรุ่นแก๊งนี้มาดำเนินคดีได้

ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายวัยรุ่นใช้ก้อนหินปาใส่ นายอานนท์ อินทแพทย์ อายุ 32 ปี คนขับรถสิบล้อ ขณะขับรถผ่านเขต อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อคืนวันที่ 28 ก.ค. ทำให้ตาซ้ายแตกนั้น  

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 ก.ค.) พ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รองผู้กำกับการกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังตำรวจกว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายกลุ่มวัยรุ่น ที่อยู่ในรัศมีใกล้กับที่เกิดเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่รถบรรทุกปูน จำนวน 5 จุด ในพื้นที่ ต.พระแก้ว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ที่บ้านเลขที่ 62 ม. 1 ต.พระแก้ว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ของนางอำไพ เฉยสุดใจ อายุ 70 ปี
 
 

จากการตรวจค้นภายในห้องนอนของนายประทวน เฉยสุดใจ อายุ 35 ปี ลูกชาย พบอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด จำนวน 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอน มีกระสุนขนาดเบอร์ 12 บรรจุอยู่ จำนวน 3 นัด


ส่วนนายประทวน เจ้าของห้องไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน จึงได้ยึดอาวุธปืนลูกซองไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าปืนทั้ง 2 กระบอก ไม่มีทะเบียนและเป็นของนายประทวน ซึ่งตำรวจต้องการตัว และจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบว่านายประทวน อยู่ระหว่างช่วงประกันตัวในคดียาบ้า ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง จำนวน 5 เม็ด และจะเร่งติดตามตัวนายประทวนมาสอบสวนภายหลัง
 

ทางด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศ

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเพิ่มสวัสดิภาพความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนรวมทั้งประชาชนที่สัญจรตามเส้นทางต่างๆ ทั่วประเทศ ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้เน้นย้ำถึงมาตรการสร้างความปลอดภัยและป้องกันคนร้ายขว้างปาหินใส่รถยนต์ โดยแจ้งไปยังหน่วยงานปฏิบัติพื้นที่ทั้งในกองบัญชาการตำรวจนครบาล
, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้ถือปฏิบัติอย่างจริงจัง 5 ประการหลัก ดังนี้
 1. เพิ่มความเข้มในการตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบโดยเน้นจุดล่อแหลมต่างๆ อาทิ บริเวณสะพานลอยคนข้าม บริเวณไหล่ทางที่มีรถจอด ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณเส้นทางสายที่เปลี่ยวจากผู้คน และบริเวณที่ง่ายต่อการก่อเหตุขว้างปาหินใส่รถยนต์ทุกแห่งในเขตพื้นที่

2. กรณีพบกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์รวมตัวกันมั่วสุมหรือมีพฤติกรรมต้องสงสัยให้รับเข้าไปตรวจสอบโดยทันที
 

3. กวดขันจับกุมผู้ที่ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจรทุกประเภท รวมทั้งผู้ที่ขับรถย้อนศรอย่างเข้มงวดในทุกกรณี

4. จัดทำบัญชีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัย จำพวกติดยาเสพติด ติดการพนัน โดยให้จัดทำทุกท้องที่ และให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างท้องที่ด้วย

และ 5. แสวงหาความร่วมมือพร้อมประชาสัมพันธ์ข้อความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแสบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยให้สถานีตำรวจท้องที่ทราบตลอดเวลา และโดยเร็วที่สุด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์