แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเสียงเด็กร้องลวงพ่อหลงกลโอนเงิน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเสียงเด็กร้องลวงพ่อหลงกลโอนเงิน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเสียงเด็กร้องลวงพ่อหลงกลโอนเงิน : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญกรรม

กลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับเปลี่ยนวิธีในการโทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อในรูปแบบต่างๆ จนเหยื่อหลายรายหลงเชื่อสูญเงินนับไม่ถ้วน แม้ตำรวจจะบุกจับแก๊งนี้ได้หลายต่อหลายครั้งทั้งในและต่างประเทศ แต่ก็ยังก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับ นายต่อ (นามสมมุติ) เปิดเผยผ่านรายการ "โรงพักระวังภัย" ว่า เวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ขณะขับรถอยู่ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาเป็นเสียงเด็กร้องไห้ จึงถามว่าเป็นหนูเป็นใคร เด็กตอบว่า "เป็นลูกพ่อไง" และเสียงนั้นก็คล้ายกับเสียลูกของตนอายุ 14 ปี เรียนอยู่โรงเรียนประจำ เลียนเสียงได้คล้ายมาก มีเพียงเสียงร้องไห้ที่เพี้ยนไปเล็กน้อย จึงไม่ได้เอะใจและถามไปว่า "เป็นอะไร"

"เด็กคนนั้นตอบว่า กระเป๋าถูกกรีด เงินหายหมด และยังขอร้องว่าอย่าบอกแม่ว่าถูกกรีดกระเป๋า เพราะจะต้องจ่ายค่าหนังสือ 2,800 บาท พ่อจอดรถโอนเงินให้ก่อนได้ไหม ไม่กล้าโทรหาแม่ กลัวโดนดุ จึงตอบไปว่า เดี๋ยวจะแวะโอนเงินให้ และสอบถามหมายเลขบัญชีว่าเป็นของใคร เด็กตอบว่าเป็นของครูชื่อกาญจนา"

นายต่อ เล่าอีกว่า หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ไปคุยกับภรรยา ซึ่งกำลังขับรถอยู่บนทางด่วนใกล้โรงเรียนของลูก พร้อมให้เบอร์ที่เด็กติดต่อมา อ้างว่าเป็นเบอร์ของครู พร้อมกับแวะจอดรถลงไปกดโอนเงินให้ทันทีจำนวน 3,000 บาท เพราะเห็นว่าชื่อบัญชีกาญจนาถูกต้อง

"เรื่องโอนเงินตามที่เด็กบอก ผมยังไม่ได้บอกภรรยาเลยว่าโอนเงินไปแล้วจนถึงบัดนี้"

หลังโอนเงินแล้วได้โทรกลับไปเบอร์ของเด็กคนดังกล่าว เพื่อถามว่าได้รับเงินหรือยัง เด็กตอบว่า เงินยังไม่พอ เลยถามว่าไหนลูกบอกว่า 2,800 บาท เด็กเลยบอกว่า หนูบอกผิด จริงๆ เงิน 4,800 บาท เลยบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวโอนให้ใหม่

สักพักภรรยาก็โทรกลับมาว่าถึงโรงเรียนแล้วกำลังให้อาจารย์ประกาศเรียกลูกออกมาพบและได้วางสายไป

นายต่อ กล่าวอีกว่า จากนั้นเด็กคนดังกล่าวได้โทรกลับมาทันทีพร้อมอาการร้องไห้หนักกว่าเดิม และถามย้ำว่าโอนเงินหรือยัง ตอนนี้ครูจะให้รีบจ่ายเงินแล้ว ตอนนั้นตอบไปว่าแม่ไปถึงโรงเรียนแล้ว ทำไมไม่ลงไปหาแม่ เขาก็อึ้ง และเงียบไป นี่เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้คุยโทรศัพท์กับเด็กคนนี้

 "ตอนนั้นผมกำลังจะไปโอนเงินให้ลูกอีก กลัวเงินไม่พอ แต่ปรากฏว่า ภายหลังโอนเงินเข้าบัญชีเพียงไม่กี่นาที ภรรยาโทรมาบอกว่า โทรคุยกับลูกแล้วจะเข้าไปหาลูกที่โรงเรียน ไม่ต้องโอนเงินให้ลูก"

"หลังจากนั้นสักพักภรรยาโทรกลับมาว่า เจอลูกแล้ว ลูกงง ไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ครูที่พาเดินลงมาก็บอกว่า เมื่อสักครู่ยังนั่งเรียนอยู่ปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจึงมั่นใจว่า โดนหลอกแน่ๆ"

ทั้งนี้ นายต่อได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.พระราชวัง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนของลูก
 
หลังโดนหลอกยังลองโทรกลับไปหมายเลขเดิม แต่ไม่มีคนรับสาย เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าคาดไม่ถึงจริงๆ อยากเตือนภัยให้ประชาชนได้ระมัดระวังการหลอกโอนเงินรูปแบบนี้ พ.ต.อ.สถิตย์ สะเภาทอง รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (รอง ผบก.ปอศ.) ฝากเตือนว่า หากเกิดกรณีลักษณะนี้ประการแรกจะต้องมีสติ และตรวจสอบว่าเป็นเบอร์ของลูกจริงหรือไม่ เพราะเทคโนโลยีปัจจุบันทันสมัยสามารถตรวจสอบได้ทันที นอกจากนี้ยังมีหลายช่องทางในการตรวจสอบ ไม่ใช่เฉพาะลูกเท่านั้น แม้ญาติก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน

"สิ่งสำคัญอย่าตกใจเกินเหตุ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อได้ทันที แต่กรณีนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแก๊งตีหมอน คือ ทำเสียงเด็กถูกจับ และถูกทำร้ายให้โอนเงินไปช่วยเหลือ" พ.ต.อ.สถิตย์กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์