เอ็ม16รัวพรุน3ศพ ฆ่าปิดปาก คดียกตู้เอทีเอ็ม

อบต.-เมียกับน้องชาย ระหว่างเดินทางไปศาล ฆ่าอุกอาจสมาชิก อบต. กับเมียและน้องชาย ตายคารถปิกอัพ 3 ศพ

ทีมสังหารพระกาฬ 4 คน ฉวยโอกาสลงมือขณะเหยื่อโหดขับรถไปศาลจังหวัดสงขลาที่สมาชิก อบต.กับน้อง ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันขโมยยกตู้เอทีเอ็ม หน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสงขลา ควบรถปิกอัพไล่ล่ายิงถล่มด้วยปืนอาก้า เอ็ม 16 และ 11 มม. จนรถเสียหลักตกคูน้ำข้างทางทั้ง 2 คัน ก่อนจะลงไปยิงซ้ำมั่นใจว่าตาย แล้วจี้บังคับคนงานร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ขับรถไปส่งเขตรอยต่อ อ.เมืองสงขลา กับ อ.จะนะ ตำรวจเชื่อชนวนสังหารมาจากคดียกตู้เอทีเอ็ม ที่เหยื่อโหดถูกกันเป็นพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนไปติดต่อขอให้ กลับคำให้การ หรือไม่ให้ไปขึ้นศาลคดีดังกล่าว แต่ยังไม่ทิ้งปมขัดแย้งอื่น ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งยกตู้เอทีเอ็มถูกถอนประกัน ส่งตัวเข้าเรือนจำ เพราะเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องคดีฆ่าโหด และเกรงจะไปข่มขู่พยาน


เหตุไล่ฆ่าผู้ต้องหาคดียกตู้เอทีเอ็มอย่างอุกอาจรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 17 มิ.ย.

ร.ต.ต. ขวัญชาติ จันทะ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุคน ถูกยิงเสียชีวิตในรถปิกอัพริมถนนสายสงขลา-นาทวี เยื้อง กับร้านอารีย์วัสดุก่อสร้าง บ้านเกาะวา หมู่ 7 ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา  จึงพร้อมด้วย  พล.ต.ต.วิรุฬ  เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.พัชรพงษ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา พ.ต.ท. ธรรมนูญ ประยืนยง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า สวป. แพทย์เวร รพ.เมืองสงขลา นำกำลังรุดไปสอบสวน 

ที่เกิดเหตุเป็นถนนขนาด 2 เลน วิ่งสวนกัน พบ รถปิกอัพ 2 คัน จอดเสียหลักตกลงในคูน้ำริมถนนด้านขวา ฝั่งมุ่งหน้าออกตัวเมืองสงขลา แต่หน้ารถหันไปทางเข้าเมืองสงขลา คันแรกเป็นรถปิกอัพโตโยต้าตอนเดียวสีขาว หมายเลขทะเบียน บจ 8743 สงขลา ชนอัดคาเสาไฟฟ้าจนหน้ารถยุบพังยับเยิน กระจกแตกรอบคัน มีรอยถูกยิงด้วยปืนอาก้า และเอ็ม 16 พรุนไปทั้งคัน

ภายในรถพบศพเหยื่อโหดนั่งเรียงกัน 3 ศพ

ทราบชื่อนายสุวิทย์ ไชยหนู อายุ 42 ปี สมาชิก อบต.บ้านนาหว้า คนขับ อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 5 ต.นาหว้า อ.จะนะ จ.สงขลา สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ถูกยิงด้วยปืนทั้งสองชนิด เข้าแก้มซ้าย ลำคอ และหลัง
ส่วนคนนั่งกลางชื่อนางสุพิศ พุทธรัตน์ อายุ 35 ปี เมียนายสุวิทย์ สวมเสื้อยืดสีดำ ทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ ติดโลโก้พรรคการเมืองระดับชาติพรรคหนึ่ง และกางเกงยีนส์ สีดำ  ถูกยิงเข้าศีรษะ  และลำตัวหลายนัด  และนายทวีป ไชยหนู อายุ 36 ปี น้องนายสุวิทย์ และพักอยู่บ้านเดียวกัน นั่งอยู่ติดประตูรถด้านซ้าย ถูกยิงเข้าศีรษะด้านซ้ายกะโหลก ฉีก เลือดและมันสมองเหยื่อกระสุนสาดกระจายเปรอะเต็มรถ จึงส่งศพไป รพ.สงขลา เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง




รถอีกคันเป็นรถปิกอัพนิสสันบิ๊กเอ็มแบบแค็บสีเขียว ทะเบียน บท 1428 สงขลา แต่ป้ายวงกลมหน้ารถ ระบุหมายเลขทะเบียน บง 3953 กระบี่ อยู่ใกล้เคียงกัน

ล้อหน้าและล้อหลังด้านขวาตกลงคูน้ำ ส่วนล้อด้านซ้ายอยู่บนไหล่ทาง ทราบว่า เป็นรถของกลุ่มมือสังหาร ตรวจ ค้นภายในรถพบหมวกไหมพรมยังไม่ได้ใช้ 2 ใบ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก หมวกแก๊ปสีขาว 3 ใบ เสื้อแจ็กเกตผ้าร่ม สีขาว 1 ตัว ตกอยู่บนพื้นรถ มีปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 7 ปลอก ส่วนกระบะท้ายมีซองบรรจุกระสุนปืนเอ็ม 16 มีกระสุนบรรจุเต็ม 5 อัน เสื้อปูพื้นรถ 1 ผืน มีปลอกกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่ราว 50 ปลอก และตกอยู่บนถนนจำนวนหนึ่ง


พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จ.สงขลา เปิดเผยว่า

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสุวิทย์ และนาย ทวีป ผู้ตาย เป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกอีก 6 คน ขโมย ยกตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หน้าสำนักงานประกันสังคม จังหวัดสงขลา สาขาหาดใหญ่ เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. 2550 ได้เงินไปราว  2.4  ล้านบาท  ก่อนเกิดเหตุเหยื่อกระสุนทั้งสามขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าไปศาลจังหวัดสงขลา เพื่อสืบพยานคดีดังกล่าว ถึงที่เกิดเหตุคนร้าย 4 คน ใช้รถ ปิกอัพนิสสันเป็นพาหนะไล่กวดตามมา เปิดโอกาสให้คนร้าย ที่นั่งอยู่กระบะท้าย 2 คน ใช้ปืนสงครามยิงถล่ม โดยคนร้าย ที่นั่งคู่คนขับใช้ปืน 11 มม. บรรจุกระสุนปืน 9 มม. ยิงใส่รถ ผู้ตายอย่างไม่นับ เป็นระยะทางร่วม 200 เมตร จนรถทั้ง สองคันเสียหลักตกข้างทาง
 

ผบก.ภ.จ.สงขลากล่าวต่อว่า จากนั้น คนร้ายได้ลงไปใช้ปืนพกกระหน่ำยิงเข้าไปในรถจนมั่นใจว่าเหยื่อไม่รอด

ก่อนจะใช้ปืนจี้บังคับลูกจ้างร้านวัสดุก่อสร้างใกล้ที่เกิดเหตุ ขับรถกระบะพาไปส่งบริเวณโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ รอยต่อเขต อ.เมืองสงขลา และ อ.จะนะ ห่างที่เกิดเหตุ 2 กิโลเมตร ซึ่ง พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า สวป.สภ.เมืองสงขลา นำกำลังไล่ตามคนร้ายไป และได้ตรวจสอบกับโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำแล้ว ทราบว่าคนร้ายไม่ได้เข้าไปในโรงงาน คาดว่าคนร้ายอาจเดินเท้าเข้าป่าละเมาะด้านหลังโรงงานหลบหนี ส่วนรถปิกอัพของคนร้ายตรวจสอบแล้วพบว่า ทะเบียนรถที่แท้จริงคือ บง 3953 กระบี่ ถูกโจรกรรมมาจาก อ.ลำทับ จ.กระบี่ และเจ้าของได้แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนป้ายทะเบียน บท 1428 สงขลา ก็เป็นป้ายจริง คาดว่าขโมยจากรถคันอื่นมาสวมแทน 


ส่วนปมยิงถล่มอุกอาจครั้งนี้ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ กล่าวว่า ให้น้ำหนักไปที่คดีขโมยยกตู้เอทีเอ็ม ถึง 80 เปอร์เซ็นต์

โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 8 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน ที่เหลือ 7 คน ถูกจับดำเนินคดีและอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี โดยนายทวีปเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ และถูกตำรวจจับกุมได้คนแรก และได้ให้การซัดทอดเพื่อนร่วมแก๊ง กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมได้ทั้งหมด รวมทั้งยึดตู้เอทีเอ็มกลับคืนมาได้ ส่วนนายสุวิทย์เป็นเจ้าของรถปิกอัพพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งพนักงานอัยการได้กันทั้งคู่ไว้เป็นพยาน นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุราว 3 อาทิตย์ มีคนมาเคลียร์กับนายทวีปให้กลับคำให้การ หรือไม่ไปศาลในคดีดังกล่าว โดยเสนอเงินให้จำนวนหนึ่ง แต่นายทวีปไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ กระทั่งก่อนเกิดเหตุเดินทางไปขึ้นศาลแล้วถูกคนร้ายยิงถล่มเด็ดชีพ 


ผบก.ภ.จ.สงขลากล่าวต่อว่า สำหรับปมขัดแย้งอื่น ตำรวจก็ยังไม่ทิ้ง อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะมีเรื่องใดเป็นปมสั่งตายได้หรือไม่

ส่วนคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะลงมืออย่างอุกอาจและมีการเตรียมการมาอย่างดี ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มไหน สำหรับผู้ต้องหาคดียกตู้เอทีเอ็มอีก 5 คน วันนี้ได้เดินทางไปขึ้นศาล หลังเกิดเหตุตำรวจได้ทำเรื่องขอถอนประกัน เพราะคาดว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสังหารผู้ตาย และป้องกันไม่ให้ข่มขู่พยานในคดี ศาลพิจารณาแล้วสั่งถอนประกันตามคำร้องของตำรวจ ส่งเข้าไปควบคุมในเรือนจำจังหวัดสงขลาแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา ดูแลด้านการสืบสวนสอบสวน และให้ พ.ต.อ. วีระสิทธิ์ เพชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา ดูแลด้านการสอบสวน พร้อมกำชับให้ส่งปลอกกระสุนไปตรวจพิสูจน์ว่ายิงจากปืนที่ใช้ก่อคดีใดมาก่อนหรือไม่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์