เหยื่อสาดมาม่าโล่ง ยันฮียันแผลไม่เละ

สาวเหยื่อสาดมาม่าคัพรุดพบหมอโรงพยาบาลยันฮี


หลังแผลพุพองที่หน้าอกเริ่มแตกเป็นวงกว้าง หมอศัลยกรรมตรวจละเอียดพบมีบาดแผลใหญ่ 3-4 แห่งที่ใบหน้าและหน้าอก แต่ก็ผ่าตัดทำศัลยกรรมให้กลับมาเหมือนเดิมได้ ตอนนี้ต้องมาล้างแผลวันเว้นวันไม่ให้เกิดอาการติดเชื้อ จากนั้นอีก 3 สัปดาห์ถึงผ่าตัดลบรอยแผล เปิดใจพอใจที่ฝ่ายคู่กรณียอมรับผิดชอบค่ารักษา-ทำศัลยกรรม โดยไม่สนใจว่าสาวคู่กรณีจะขอโทษหรือไม่

จากกรณีน.ส.สุมาพร ลายกระ อายุ 22 ปี น.ศ.ปี 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง ถูกน.ส.อัญชิสา ประเวศตระกูลชัย อายุ 19 ปี น.ศ.สถาบันมีชื่อย่านรามคำแหง

ใช้มาม่าคัพร้อนๆ สาดใส่หน้าและตบตีจนหน้าและร่างกายเป็นแผลพุพอง เหตุเกิดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ใกล้สี่แยกบ้านแขก เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดทั้ง 2 ฝ่ายสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ โดยพ.ต.อ.นพ.ศุภชัย ประเวศตระกูลชัย บิดาของน.ส.อัญชิสา ได้ออกมาแถลงข่าวยินยอมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและทำศัลยกรรมให้ และยอมรับว่าข้อมูลผิดพลาดเรื่องการขโมยโทรศัพท์มือถือจนพอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องคดีทำร้ายร่างกายต้องดำเนินไปตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่โรงพยาบาลยันฮี น.ส.สุมาพร ลายกระ ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบแพทย์ศัลยกรรมของโรงพยาบาล


เพื่อตรวจร่างกายและปรึกษาเรื่องทำการศัลยกรรมลบรอยแผลที่โดนน้ำร้อนลวกตามร่างกาย โดยมีน.พ.พิชญ์ ไพบูลยเกษมสุทธิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญงานศัลยกรรม เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งแพทย์นำตัวน.ส.สุมาพรไปที่ห้องศัลยกรรม ชั้น 4 ของร.พ. เพื่อตรวจร่างกายและบาดแผลอย่างละเอียด ก่อนส่งตัวให้พยาบาลทำความสะอาดบาดแผล ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงเดินทางกลับบ้าน

จากนั้น น.ส.สุมาพรให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เดินทางมาที่ร.พ.ยันฮี เพื่อให้หมอตรวจร่างกายและบาดแผลเพื่อทำศัลยกรรมไม่ให้เป็นแผลเป็น

ตอนนี้ตนมีบาดแผลใหญ่ๆ ตามร่างกาย 3-4 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกซ้ายเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่และเริ่มแตกเป็นน้ำใสๆ รู้สึกแสบร้อนมาก ซึ่งตนกลัวว่าจะไม่สามารถรักษาลบรอยแผลได้ แต่หลังจากหมอได้ทำการตรวจแล้วยืนยันว่าสามารถทำศัลยกรรมลบแผลเป็นได้ ทำให้ตนรู้สึกโล่งใจมาก ส่วนบาดแผลบริเวณอื่นก็ไม่น่าเป็นห่วงมาก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้าซึ่งถูกน้ำร้อนราดเข้าอย่างจัง ตอนนี้เริ่มเป็นรอยไหม้แดงตนยังรู้สึกแสบอยู่ ส่วนแผลที่ริมฝีปากที่เกิดจากการตบตีกันเริ่มตกสะเก็ดแล้ว และที่หัวไหล่จนถึงต้นแขนข้างขวาบาดแผลที่ถูกน้ำร้อนเริ่มตกสะเก็ดแต่ยังรู้สึกเจ็บและยังมีรอยฟกช้ำอยู่

เหยื่อสาดมาม่ากล่าวว่า หลังจากที่ได้ให้คุณหมอตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอได้บอกกับตนว่าบาดแผลต่างๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ไม่มีอาการอักเสบและติดเชื้อ แผลส่วนใหญ่เริ่มตกสะเก็ดแล้ว ส่วนแผลพุพองก็เริ่มแตกแล้ว พร้อมยืนยันว่าสามารถทำศัลยกรรมตกแต่งลบรอยแผลเป็นได้อย่างแน่นอน เบื้องต้นคุณหมอได้ทำการล้างแผลให้ ก่อนจะกำชับให้ตนต้องมาตรวจอาการของบาดแผลและให้หมอทำความสะอาดล้างแผลเพื่อไม่ให้ติดเชื้อวันเว้นวัน เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์จนกว่าแผลจะแห้งและหายสนิทก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการทำศัลยกรรมลบรอยแผลต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ได้แถลงข่าวไปแล้ว น.ส.อัญชิสา สาวคู่กรณีได้โทรศัพท์มาขอโทษหรือไม่

น.ส.สุมาพรกล่าวว่า น.ส.อัญชิสายังไม่ได้โทรศัพท์มาขอโทษตนเลย ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไรตรงนั้นอยู่แล้ว ขอให้ครอบครัวของเขายอมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและทำศัลยกรรมทุกอย่าง ตนก็พอใจแล้ว ส่วนคดีความก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ จากนี้จะพยายามมาพบแพทย์บ่อยๆ เพื่อรักษาบาดแผลให้หายและขอจะมีสมาธิกับการสอบที่จะเริ่มในสัปดาห์หน้า

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์