เหนือน้ำลดอุตุฯเตือนซ้ำมีฝนทุกภาค

14 จังหวัดยังไม่พ้นวิกฤติต้องลุ้นระทึก หลังกรมอุตุเตือนอีก 2-3 วัน ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนน่าน  กับเชียงราย เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังไม่เจอศพผู้สูญหาย ในหมู่บ้านห้วยธนู พร้อมกับเร่งนำสิ่งของ ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ขณะที่สตูลยังจมบาดาล ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ต้องจับตาเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เพราะผวาน้ำป่าทะลักซ้ำ
 
จากสถานการณ์มีฝนตกหนักหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.น่าน มีน้ำป่าไหลทะลักลงจากภูเขา เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน ต.ตาลชุม และ ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา

แต่ที่หนักที่สุดคือหมู่บ้านห้วยธนู หมู่ 9 ต.ตาลชุม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนางอำพร ปาโน อายุ 60 ปี กับนางสม ไชยสลี อายุ 64 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 1 คน ชื่อนางอ่อน อินธิวงค์ อายุ 61 ปี ขณะที่ทางสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้จัดส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น
 
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังน้ำลดเข้าสู่สภาวะปกติ

เจ้าหน้าที่ยังเร่งระดมค้นหานางอ่อน ที่ถูกน้ำป่าซัดร่างหายไป โดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานทางเข้าหมู่บ้านห้วยธนู ซึ่งมีเศษไม้และดินทับถมกัน ได้มีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพ โชยออกจากใต้สะพาน เจ้าหน้าที่เลยนำรถขุดดิน มาตักดินตรงใต้สะพานออก พบเพียงซากสัตว์ที่เสียชีวิตจากน้ำป่าไหลหลาก ส่วนศพของนางอ่อนยังไม่เจอ คาดว่าคงถูกกระแสน้ำพัดออกไปไกลกว่านี้
 
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงบ่าย วันเดียวกัน ได้มีคณะเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน หน่วยงานราชการ และนายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา นำเครื่องอุปโภคบริโภค ไปแจกจ่ายแก่ผู้เดือดร้อน

พร้อมกับเร่งระดมแก้ไขเสาไฟฟ้าที่หักโค่น เพื่อให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้กันตามปกติ และช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหาย ส่วนที่ จ.เชียงราย ใน อ.เวียงป่าเป้า กับ อ.แม่สาย หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว พื้นที่ไร่นาเสียหายบาง ส่วน และโชคดีไม่มีใครสูญหายหรือเสียชีวิต มีเพียงทรัพย์สินที่เสียหายเท่านั้น ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำแม่สาย ระดับน้ำยังคงปริ่มตลิ่ง ซึ่งประชาชน ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
 
ส่วนที่ จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำป่าไหลเข้าท่วมในเขตพื้นที่หมู่ 13 ต.ละงู และในพื้นที่หมู่ 1 กับหมู่ 2 ต.น้ำผุด อ.ละงู

ส่งผลให้ถนนในหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้ต้นข้าวในทุ่งนา ยังจมอยู่ใต้น้ำเป็นบริเวณกว้าง โดยนายธานี ฮะยีมะสาแล๊ะ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนาย  อำเภอละงู จึงสั่งการให้นายพันธ์รัตน์ จิช่อง ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน นำกำลังอาสาสมัครลงไปช่วยเหลือ พร้อมทั้งรายงานให้นายขวัญชัย วงศ์นิติกร ผวจ.สตูล หาทางช่วยเหลือต่อไป อีกทั้งยังได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติ โดยต้องเฝ้าระวังน้ำป่าตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
 
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป

เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ว่าร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิบริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครราชสีมา นครนายก พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์