เสาไฟฟ้าโดนอีก ลักนอต7ต้นรวด

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 5 เม.ย. พ.ต.ท.สุรัตน์ น้อยจันทึก สารวัตรเวร สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

รับแจ้งจากนายปิยะบุตร บุตรรัตนะ นายช่างไฟฟ้าระดับ 5 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ.นครราชสีมา ว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกถอดนอตและขโมยเหล็กค้ำยันเสาไฟฟ้าแรงสูง ที่ตั้งอยู่ในป่ามันสำปะหลังหลังร้านอาหารตอไม้ หมู่ 18 บ้านมะเกลือเก่า ไปถึง 7 ต้น สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดำรง รอดโพธิ์ทอง ผกก. และนายยุทธชัย ทิพย์วงศา หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ.นครราชสีมา เดินทางไปตรวจสอบ

พอไปถึงเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เพราะพบว่าเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดกำลังส่งกระแสไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ตั้งเป็นแนวยาวจากโรงไฟฟ้าลำตะคอง อ.สีคิ้ว ถึง จ.นครราชสีมา

ถูกคนร้ายขโมยถอดนอตออกแล้วขนเอาเหล็กอย่างดีที่ใช้สำหรับเป็นอุปกรณ์ประกอบโครงของเสาไฟฟ้าแรงสูงทั้ง 7 ต้น หายไปเป็นจำนวนมากน่าหวาดเสียว ว่าจะล้มลงมา ประกอบด้วยท่อนเหล็กสำหรับประกอบโครงของเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดความยาวตั้งแต่ 1 เมตร ถึง 3 เมตร จำนวน 441 ท่อน และนอตยึดเสาไฟฟ้ากับเหล็กค้ำยันเบอร์ 24 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ความยาว 1/2 นิ้ว หายไปประมาณ 1,800 ตัว ยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้

พ.ต.อ.ดำรง รอดโพธิ์ทอง ผกก.สภ.สูงเนิน เผยหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า คนร้ายคงเป็นพวกแก๊งมิจฉาชีพที่ขโมยเหล็กไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ได้สั่งการให้ ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามหาตัวแก๊งคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้รายงายให้ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ทราบเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว

ด้านนายยุทธชัย ทิพย์วงศา หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ.นครราชสีมา กล่าวว่า
 
จากการตรวจสอบเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ถูกคนร้ายโจรกรรมอุปกรณ์เสาไฟทั้ง 7 ต้นนี้ มีเหล็กประกอบเสาและนอตยึดเสาหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลค่าความเสียหายอยู่ในระหว่างนายช่างผู้ชำนาญการด้านนี้ทำการประเมิน ยังโชคดีที่มีคนมาพบเจอก่อนที่เสาไฟทั้งหมดจะล้มครืนลงมาซะก่อน แต่ถ้าคนร้ายถอดนอตยึดฐานรากเสาออกไปมากกว่านี้ หรือมีลมพายุพัดแรง ก็อาจจะส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงทั้ง 7 ต้นโค่นล้มลงมาได้ ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จ.นครราชสีมา จะได้เร่งขอเบิกจ่ายงบประมาณและอุปกรณ์ที่สูญหายไป ทำการบูรณะซ่อมแซมให้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่เสียหายให้อยู่ในสภาพดีเป็นปกติโดยเร็ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

นายยุทธชัยกล่าวด้วยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จ.นครราชสีมา รับผิดชอบดูแลด้านการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ และชัยภูมิ

จากการออกตรวจในพื้นที่ พบว่าเสาไฟฟ้าแรงสูงถูกคนร้ายโจรกรรมอุปกรณ์ประกอบเสาไฟแล้วกว่า 100 ต้น ยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จ.นครราชสีมา จะได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเสาไฟฟ้าแรงสูงให้มากกว่าเดิม โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความชำรุดของเสาไฟฟ้าแรงสูงอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง

หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้า กล่าวอีกว่า

ส่วนพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง กฟผ.จะใช้เฮลิคอปเตอร์ ออกบินสำรวจตรวจสอบอีกทาง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ก็อยากจะขอความเห็นใจจากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า อย่าได้กระทำการถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงอีกเลย เพราะถ้าหากเสาไฟล้มลงมา ความเสีย หายของรัฐจะมากมายมหาศาล และยังจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนที่ต้องใช้ไฟฟ้าทั่วไปด้วย
 

ที่ จ.กาฬสินธุ์ เวลา 00.20 น. วันเดียวกัน

ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำกำลังสายตรวจชุด “สายฟ้า” ตั้งจุดตรวจบริเวณสี่แยกทุ่งมน ปรากฏว่า มีรถปิกอัพโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน 4ท-3645 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมา กระบะหลังบรรทุกตะแกรงปิดท่อระบายน้ำ จำนวน 5 แผ่น ค้อนปอนด์ 1 อัน ตาชั่ง 1 ตัว คีมล็อก 1 อัน และมีด 1 เล่ม ตรวจสอบพบเป็นตะแกรงปิดท่อระบายน้ำของทางราชการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัวนายคูณ ภูจำปา อายุ 55 ปี คนขับ กับนางหนูจี ภูจำปา อายุ 57 ปี 2 สามีภรรยาพ่อค้าของเก่า

สอบสวนนายคูณอ้างว่า รับซื้อตะแกรงดังกล่าวมาจากนายธเนศพล หรือรุ่ง สำราญเรียบ และนายพิทักษ์ หรือโหน่ง ศรีสุมาตย์ ทำงานเป็น รปภ.สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค ตั้งอยู่บ้านมอดินแดง ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์

จึงตามไปคุมตัวนายธเนศพล กับนายพิทักษ์ มาสอบสวนยอมรับว่า เหล็กรางน้ำทั้งหมดได้มาจากฝารางน้ำตามท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นำมาเก็บไว้ที่ทำงาน และนัดหมายให้นายคูณ และนางหนูจี พ่อค้ารับซื้อของเก่ามาซื้อในราคา 3,800 บาท ต้องการนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี หรือพาทรัพย์นั้นไปในเวลากลางคืนและข้อหารับของโจร