เรือนจำปัดข่าวราเกซอยู่เหมือนโรงแรม 5 ดาว

"ราเกซ"ทำหนังสือถึง ผบ.เรือนจำ โวยนักข่าวอ้างเป็นเพื่อนขอเข้าเยี่ยม บอกไม่ประสงค์คุยด้วย "โสภณ"ปัดข่าวดูแลเหมือนอยู่โรงแรม 5 ดาว เผยต้องยังคุมเข้ม หวั่นคนแฝงตัวทำร้าย

นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แถลงเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า นายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ทำหนังสือมาถึงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ระบุเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับติดต่อขอเยี่ยมโดยอ้างระบุว่าเป็นเพื่อน และได้ทำหนังสือไปยังนายราเกซ จะขอเข้าเยี่ยมวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน แต่เมื่อนายราเกซทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวจึงปฏิเสธ อีกทั้งจะมีญาติมาเยี่ยม และไม่สามารถเยี่ยมหลายครั้งได้ จึงไม่อนุญาตผู้สื่อข่าวได้เข้าเยี่ยม ส่วนกระแสข่าวนายราเกซจะแถลงข่าวนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพียงแต่นายราเกซทำบันทึกให้รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำช่วยชี้แจงผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้มีความประสงค์จะพูดคุยกับสื่อแต่อย่างใด


นายโสภณ กล่าวว่า เรือนจำต้องทำตามที่นายราเกซร้องขอ เพราะเป็นสิทธิของผู้ต้องขัง ที่จะให้ใครพบหรือไม่ให้พบ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายราเกซได้รับสิทธิเหมือนผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์รายอื่นๆ ที่ได้รออยู่ในแดนพยาบาล


"กรณีที่มีข่าวออกไปในทำนองว่า เรือนจำดูแลนายราเกซเหมือนอยู่โรงแรม 5 ดาว เรือนจำขอปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางเรือนจำจะไม่นำตัวนายราเกซออกไปศาล โดยจะฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จนกว่าจะมีการพิจารณาคดี" รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าว


นายโสภณ กล่าวถึงมาตรการดูแลนายราเกซว่า เรือนจำเข้มงวดในการควบคุมตัวนายราเกซ เพื่อป้องกันหากมีคนไม่หวังดีแฝงตัวเข้ามาทำร้าย

เพราะการเข้าเรือนจำไม่ใช่เรื่องยาก แค่ไปก่อคดีลักทรัพย์หรือตีหัวคน ก็ถูกส่งเข้าเรือนจำแล้ว ดังนั้น จึงต้องเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับผู้ต้องหารายสำคัญ
"สำหรับความเป็นอยู่ในเรือนจำของนายราเกซขณะนี้ ถือว่านายราเกซมีสุขภาพดีขึ้น นายราเกซได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าให้การดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี โดยนายราเกซยังจำเป็นต้องถูกคุมตัวอยู่ในสถานพยาบาล เพราะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จากอาการเป็นอัมพฤกษ์ที่แขนข้างซ้ายยังขยับไม่ได้ อีกทั้งยังมีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือด" นายโสภณ กล่าว


ขณะที่นายสมพร แย้มนิล อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 หนึ่งในคณะทำงานอัยการ พิจารณาสำนวนนายราเกซ กล่าวว่า หลังจากที่คณะอัยการประสานพนักงานสอบสวนแปลเอกสารภาษาอังกฤษเพิ่มเติม

และแจ้งสิทธิผู้ต้องหาตามขั้นตอนให้ครบถ้วนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ขณะนี้อัยการได้รับเอกสารจากพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมแล้วบางส่วน หากส่วนที่เหลือส่งมาก่อนครบกำหนดฝากขังนายราเกซ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นไปได้ว่า อัยการจะยื่นฟ้องนายราเกซ ฐานร่วมปล่อยกู้บริษัท ซิตี้เทรดดิ้งฯ มูลค่า 1,657 ล้านบาทต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายในกำหนดฝากขังดังกล่าว แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องยื่นฟ้องหลังครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ก็ไม่เสียหาย ขณะที่พนักงานสอบสวนต้องยื่นคำร้องฝากขังนายราเกซต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์