ตำรวจสอบเค้นนานกว่า 12 ชั่วโมงก่อนเปิดปากสารภาพฆ่าผัว เพราะต้องการไปอยู่กินกับแฟนวัยเดียวกัน
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.กุณฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ รามสวัสดิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อำพลวัฒน์ แสงเรือง พงส.ผนพ.หน.พนักงานสอบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ นำตัว น.ส.สุปราณี เพชรทอง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นศพ หลังร่วมกับเพื่อนชายคนสนิทก่อเหตุฆ่า นายวัฒนา เกตกรณ์ อายุ 55 ปี สามี แล้วนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา พื้นที่บ้านสี่ขีด หมู่ 11 ต.บางงอน
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ม.ค. ได้มี นางเจียมใจ อายุ 51 ปี น้องสาวนายวัฒนา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน
ว่านายวัฒนา ได้หายออกจากบ้านไป พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ แบบ 2 ตอนสีดำ หมายเลขทะเบียน กต 134 สุราษฎร์ธานี ขณะนำเงินจำนวน 400,000 บาทไปจ่ายให้กับลูกค้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 13 ม.ค. และเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำหมายเลขโทรศัพท์ของนายวัฒนามาตรวจสอบ และพบว่ามีการติดต่อกับ น.ส.สุปราณี ภรรยาน้อย ตลอดช่วงเช้า จึงได้เชิญตัว มาสอบสวน
ว่านายวัฒนา ได้หายออกจากบ้านไป พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ แบบ 2 ตอนสีดำ หมายเลขทะเบียน กต 134 สุราษฎร์ธานี ขณะนำเงินจำนวน 400,000 บาทไปจ่ายให้กับลูกค้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 13 ม.ค. และเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำหมายเลขโทรศัพท์ของนายวัฒนามาตรวจสอบ และพบว่ามีการติดต่อกับ น.ส.สุปราณี ภรรยาน้อย ตลอดช่วงเช้า จึงได้เชิญตัว มาสอบสวน
ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.สุปราณี ให้การวกวนและเป็นพิรุธ โดยอ้างว่า ได้นัดพบผู้ตายจริงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค.
เพื่อไปทำธุระที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และแยกย้ายกันในช่วงบ่ายและไม่สามารถติดต่อได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ โดยได้ร่วมกันสอบสวนปากคำนานกว่า 12 ชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายทวีทรัพย์ สิทธิศักดิ์ อายุ 25 ปี ชาว จ.ตรัง เพื่อนชายคนสนิท ลวงนายวัฒนา สามี ไปฆ่าแล้วนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา ก่อนนำชี้สถานที่ฝังศพ
เพื่อไปทำธุระที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และแยกย้ายกันในช่วงบ่ายและไม่สามารถติดต่อได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ โดยได้ร่วมกันสอบสวนปากคำนานกว่า 12 ชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายทวีทรัพย์ สิทธิศักดิ์ อายุ 25 ปี ชาว จ.ตรัง เพื่อนชายคนสนิท ลวงนายวัฒนา สามี ไปฆ่าแล้วนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา ก่อนนำชี้สถานที่ฝังศพ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจณ์หลักฐาน 8 และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพุนพิน
พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันค้นหาและพบร่างของนายวัฒนา ถูกฝังอยู่ใกล้บ้านพักคนงานภายในสวนยางพาราซึ่งเป็นของ น.ส.สุปราณี เอง โดยสภาพศพถูกถอดเสื้อผ้า เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน จากการตรวจชันสูตร พบบาดแผลถูกแทงและฟันด้วยของมีคม เข้าตามร่างกายเป็นแผลฉกรรจ์เกือบ 10 แผล จึงนำศพตรวจชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง
พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันค้นหาและพบร่างของนายวัฒนา ถูกฝังอยู่ใกล้บ้านพักคนงานภายในสวนยางพาราซึ่งเป็นของ น.ส.สุปราณี เอง โดยสภาพศพถูกถอดเสื้อผ้า เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน จากการตรวจชันสูตร พบบาดแผลถูกแทงและฟันด้วยของมีคม เข้าตามร่างกายเป็นแผลฉกรรจ์เกือบ 10 แผล จึงนำศพตรวจชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง
ทางด้าน พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ รามสวัสดิ์ รอง ผกก.สส. สภ.พุนพิน กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.สุปราณี
ทราบว่า เป็นหม้ายมีลูก 2 คน ต่อมาได้คบหาอยู่กินกับนายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาตัดไม้ยางพารา และมีหน้าที่นำเงินสดเข้าบัญชีให้นายวัฒนา ต่อมาได้รู้จักกับนายทวีทรัพย์ และคบหาด้วยกัน จนกระทั่งนายวัฒนารู้ระแคะระคาย จึงได้ขอเลิกกับนายวัฒนา เพื่อไปอยู่กินกับนายทวีทรัพย์ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สุปราณี ได้โทรศัพท์นัดหมายให้นายวัฒนา ออกไปพบที่ร้านอาหารวังกุ้ง ใกล้กับ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี โดยมีนายทวีศักดิ์ ซ่อนตัวอยู่ในรถ เมื่อนายวัฒนาขึ้นมาบนรถ นายทวีทรัพย์ ได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมา กระหน่ำแทงนายวัฒนา จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จึงได้พากันนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา ก่อนย้อนกลับมานำรถยนต์ของนายวัฒนาไปซ่อนไว้ในบ้านเช่า ใกล้กับร้านอาหารวังกุ้ง ก่อนพากันแยกย้ายหลบหนี โดย น.ส.ได้กลับไปบ้านพักและทำตัวตามปกติ ส่วนนายทวีทรัพย์ได้หนีกลับไป จ.ตรัง ต่อมาจากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของนายวัฒนาที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดมา พบสายรัดธนบัตร จำนวน 3 เส้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทราบว่า เป็นหม้ายมีลูก 2 คน ต่อมาได้คบหาอยู่กินกับนายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาตัดไม้ยางพารา และมีหน้าที่นำเงินสดเข้าบัญชีให้นายวัฒนา ต่อมาได้รู้จักกับนายทวีทรัพย์ และคบหาด้วยกัน จนกระทั่งนายวัฒนารู้ระแคะระคาย จึงได้ขอเลิกกับนายวัฒนา เพื่อไปอยู่กินกับนายทวีทรัพย์ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สุปราณี ได้โทรศัพท์นัดหมายให้นายวัฒนา ออกไปพบที่ร้านอาหารวังกุ้ง ใกล้กับ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี โดยมีนายทวีศักดิ์ ซ่อนตัวอยู่ในรถ เมื่อนายวัฒนาขึ้นมาบนรถ นายทวีทรัพย์ ได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมา กระหน่ำแทงนายวัฒนา จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จึงได้พากันนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา ก่อนย้อนกลับมานำรถยนต์ของนายวัฒนาไปซ่อนไว้ในบ้านเช่า ใกล้กับร้านอาหารวังกุ้ง ก่อนพากันแยกย้ายหลบหนี โดย น.ส.ได้กลับไปบ้านพักและทำตัวตามปกติ ส่วนนายทวีทรัพย์ได้หนีกลับไป จ.ตรัง ต่อมาจากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของนายวัฒนาที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดมา พบสายรัดธนบัตร จำนวน 3 เส้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สอบสวนปากคำญาติผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตายว่ามีสิ่งของมีค่าอื่นใดที่สูญหาย นอกเหนือจากเงินสดหรือไม่ ส่วนสาเหตุมาจากชู้สาว และชิงทรัพย์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน,ปิดบังซ่อนเร้นศพ และ ชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และออกหมายจับนายทวีทรัพย์ ในข้อหาเดียวกัน พร้อมประสานตำรวจ ภ.จว.ตรัง เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาแล้ว
เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตายว่ามีสิ่งของมีค่าอื่นใดที่สูญหาย นอกเหนือจากเงินสดหรือไม่ ส่วนสาเหตุมาจากชู้สาว และชิงทรัพย์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน,ปิดบังซ่อนเร้นศพ และ ชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และออกหมายจับนายทวีทรัพย์ ในข้อหาเดียวกัน พร้อมประสานตำรวจ ภ.จว.ตรัง เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
