เมาแล้วขับกระบะแหกด่านตรวจแอลกอฮอล์แยกอ.ต.ก. พุ่งชนเสาไฟตายเกลื่อน5ศพเจ็บอีก7


วัยรุ่นควบกระบะซิ่งพุ่งแหกด่านวัดแอลกอฮอล์แยกอ.ต.ก. ก่อนเสยเสาไฟฟ้า คนนั่งตอนท้ายตายสยองก่ายกัน5ศพ เจ็บครวญครางอีก7ชีวิต ตร.คาดเมาแล้วขับกลับจากเที่ยว ลุ้นคนขับรถยังมีชีวิตเรียกแจ้งข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ต.ท.ทรงพล กาญจนพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางซื่อ รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิตหลายราย บริเวณแยก บ.ข.ส. ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วม

ที่เกิดเหตุบริเวณสี่แยกไฟแดง บ.ข.ส. พบศพกองก่ายกันอยู่บนทางเท้าโคนเสาไฟฟ้า จำนวน 5 ศพ ทราบชื่อต่อมา คือ 1.นายสุทัศน์ ราชภูมิ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/4 หมู่ 3 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 2 นายอุกฤษ์ เฟืองทอง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304/893 หมู่ 3 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 3.นายวีรยุทธ บุญเลี้ยง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 2 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 4.นายประพนธ์ ชินรักษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/28 หมู่ 2 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. และ 5.หญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี ใกล้กันพบรถกระบะอีซูซุ รุ่นมังกรทอง สีเลือดหมู ทะเบียน 1 ฏ 1556 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำสภาพหงายท้องมีเสาไฟฟ้าเสียบคารถพังยับเยิน

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางเกลื่อนถนนอีก 7 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น 2 ราย ทราบชื่อคือ นายอนุชา โอกาส อายุ 25 ปี และนางเสาวณีย์ โสมกลิ่น อายุ 24 ปี ส่งโรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย ทราบชื่อคือ นายศิริศักดิ์ สนเอี่ยม 21 ปี โรงพยาบาลเปาโลฯ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายสมชาติ ทองคำ อายุ 28 ปี นายณัฐพล แจ่มแสน อายุ 28 ปี และชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี และโรงพยาบาลรามาธิบดี อีก 1 ราย ทราบชื่อนายเอกชัย ศรีบุญช่วย 25 ปี

ร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ พงษ์ใหญ่ รอง สว.จราจร สน.บางซื่อ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริเวณแยกองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาถึงจุดตรวจ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่คนขับได้ขับถอยหลังและชะลอรถ คิดว่าคนขับจะจอดหลบเข้าข้างทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจ แต่จู่ๆ รถคันดังกล่าวได้ขับพุ่งฝ่าด่านไปด้วยความเร็วสูง จึงรีบวิทยุให้เจ้าหน้าที่สายตรวจบริเวณใกล้เคียงช่วยสกัดจับ แต่เพียงไม่กี่นาทีถัดมาได้ยินวิทยุแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุที่แยก บ.ข.ส. เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นรถคันที่ขับฝ่าด่านไปนั่นเอง

"ผมไม่รู้ว่าคนขับและผู้ที่โดยสารอยู่บนรถกระบะไปเที่ยวหรือไปทำธุระมา แต่คาดว่าน่ากลับจากเที่ยวสถานบันเทิงและเมาสุรา จึงขับฝ่าด่านตำรวจไม่ยอมให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์จนเกิดอุบัติเหตุ" ร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าว

นายยนต์กาญจน์ วสาน อายุ 48 ปี คนขับรถแท็กซี่ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถจะเลี้ยวไปรับผู้โดยสารที่หมอชิต จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถชนดังสนั่นมาจากท้ายรถ เมื่อมองผ่านกระจกหลังก็เห็นรถกระบะคันดังกล่าวที่บรรทุกคนมาเต็มกระบะหลังพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างแรง จึงจอดรถลงมาดู เมื่อลงมาก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตนอนกองกันอยู่ที่โคนเสาไฟฟ้าในสภาพที่น่าอนาถมาก และยังมีผู้บาดเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลือ และไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนที่มีหน่วยกู้ภัยมานำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ด้าน พ.ต.ท.ทรงพลกล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย กับผู้บาดเจ็บอีก 7 ราย ซึ่งมีอาการสาหัส 3 รายนั้น น่าจะเดินทางมาด้วยกันทั้ง 12 คน ไม่มีผู้ถูกลูกหลงรถชนได้รับบาดเจ็บ มีเพียงรถแท็กซี่ถูกเฉี่ยวชนก่อนรถยนต์กระบะจะไปชนเสาไฟฟ้า

หลังเกิดเหตุมีญาตินายสุทัศน์ และนายวีรยุทธ ผู้เสียชีวิตมาพบพนักงานสอบสวน ให้การว่ารถกระบะคันดังกล่าวมีนายต๊อก ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงเป็นคนขับ และจากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์กระบะคันดังกล่าวแล้วผู้ครอบครองชื่อ นายสมชาย ทองคำ ซึ่งมีนามสกุลคล้ายกับนายสมชาติ ทองคำ 1 ในผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเปาโลฯ ซึ่งจะเรียกตัวมาสอบสวนว่าเป็นญาติกับผู้บาดเจ็บหรือไม่ ถ้าใช่แล้วใครเป็นผู้ขับรถ

"ถ้าหากพบว่าคนขับรถกระบะคันเกิดเหตุยังมีชีวิต ก็จะปล่อยให้รักษาตัวก่อนจะเรียกตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากผลการสอบสวนปรากฏว่าคนขับเสียชีวิตแล้วก็ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ แต่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอาจฟ้องคดีทางแพ่งได้ต่อไป" พ.ต.ท.ทรงพลกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์