เพื่อนสนิทจนมุม!! รับฆ่าโหดเพื่อนปมเงินกู้ - ยัดศพใส่รถทิ้งคูน้ำ

เพื่อนสนิทจนมุม!! รับฆ่าโหดเพื่อนปมเงินกู้ - ยัดศพใส่รถทิ้งคูน้ำ

เพื่อนสนิทจนมุม!! รับฆ่าโหดสาวซีพีออลล์ ปมเงินกู้ - ยัดศพใส่รถทิ้งคูน้ำ

จากกรณีพบศพนางจีรนันท์ จันทร์ราช อายุ 33 ปี อยู่ ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี

พนักงานประจำอยู่ที่คลังกระจายสินค้าบริษัทซีพีออลล์ พื้นที่ ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ถูกฆ่าโหด ใช้เทปกาวพันศีรษะ ตา จมูก ปาก โยนศพทิ้งคูน้ำริมถนนสายบางพราง–คลองราง พื้นที่ ม.2 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นสงสัยว่าเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผู้ตายน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา

 ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

พ.ต.อ.กุณฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.พุนพิน ร่วมกับ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ชัญญวิทย์ ศรีจรูญ รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ บุศราภรณ์ สว.สส. , ร.ต.อ.กิตติพล จุลศักดิ์ พนักงานสอบสวน ร่วมกันเชิญตัวนางณัฐณิชา หรือ เจี๊ยบ บัวทอง อายุ 34 ปี อยู่ ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนางจีรนันท์ ผู้ตาย มาสอบปากคำอย่างละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

 หลังจากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่า นางณัฐณิชา เป็นบุคคลที่ติดต่อทางโทรศัพท์ และไปพบกับนางจีรนันท์ เป็นคนสุดท้าย ก่อนที่นางจีรนันท์ จะหายตัวไปและถูกฆ่า หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญตัวมาสอบปากคำแล้วครั้งหนึ่ง แต่นางณัฐณิชา ยืนยันให้การปฏิเสธ  

 โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบเครียดนานกว่า 1 ชม. ทาง พ.ต.อ.กุณฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.พุนพิน

เปิดเผยว่า ด้วยความจำนนต่อพยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่มีทั้งหมด ปรากฏว่าในที่สุด นางณัฐณิชา ให้การยอมรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่านางจีรนันท์ ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทจริง โดยก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนได้นำเงินสดจำนวนหนึ่งของนางจีรนันท์ ไปปล่อยเงินกู้ และถูกผู้ตาย ทวงเงินค่าดอกเบี้ย ซึ่งตนเองยังไม่สามารถตามเก็บเงินจากผู้กู้มาได้    

 โดยนางณัฐณิชา ให้การอ้างว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ไปทำงาน ขณะที่ผู้ตายเดินทางไปทำงานตามปกติ

ตนจึงโทรศัพท์ไปหาผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ที่คลังสินค้า ให้มาพบที่ห้องน้ำ และชวนผู้ตาย ขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กข 7508 ระนอง ของตนเอง ขับพาผู้ตายออกจากโรงงาน เพื่อไปตามเก็บเงินจากลูกค้าที่ตนได้ปล่อยกู้เอาไว้ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถตามเก็บเงินจากลูกค้ามาได้ สร้างความไม่พอใจให้ผู้ตาย ระหว่างขับรถกลับ จึงเกิดการทะเลาะโต้เถียงกันขึ้นตลอดทาง จนถึงขั้นยื้อกระชากตบตีกันภายในรถ

 ตัวเองจึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้มือบีบคอผู้ตาย จนสลบแน่นิ่งคาเบาะที่นั่งในรถ

 หลังจากเกิดเหตุ ด้วยความตกใจ ตนจึงขับรถไปแวะซื้อน้ำและยาดม จากร้านค้า เพื่อนำมาให้ผู้ตายดื่มและดมยา ระหว่างนั้นยังเห็นผู้ตาย หายใจรวยริน สำลักน้ำ และฉี่ไหลราดออกมาเต็มเบาะที่นั่ง ตอนนั้นตนคิดจะขับรถพาผู้ตายไปส่ง รพ. แต่ระหว่างคิดว่าหากผู้ตายฟื้นขึ้นมา คงไปแจ้งความเอาผิดตัวเองแน่ ด้วยความเกรงกลัวความผิด จึงขับรถจอดข้างทางจุดเปลี่ยว ใช้เทปกาว ที่ลูกเคยซื้อไว้ทำการบ้าน และวางทิ้งไว้อยู่เบาะหลังรถนำมาพันรอบศีรษะ ปิดตาจมูกปาก ผู้ตายเอาไว้ ก่อนจะอุ้มผู้ตายไปวางไว้ที่เก็บด้านหลังรถ และใช้มีดกรีดเสื้อผู้ตายออกมา เช็ดฉี่ผู้ตายที่เบาะรถ

 หลังจากนั้นได้ขับรถไปรับลูกจากโรงเรียนพาไปส่งบ้านตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากส่งลูกที่บ้านเรียบร้อย ได้ขับรถพาผู้ตาย ซึ่งซ่อนไว้หลังรถ เพื่อหาจุดที่จะทิ้ง และนึกขึ้นได้ว่าเคยไปซื้อกุ้ง จากนากุ้ง บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ เป็นที่เปลี่ยวห่างไกลชุมชน ก่อนจะนำผู้ตายไปทิ้งที่จุดเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 3 พ.ย.57 โดยได้ปลดเอาทรัพย์สินประกอบด้วยสร้อยคอ และสร้อยข้อมือและแหวน พร้อมเงินสด จำนวนหนึ่งของผู้ตายติดมือมาด้วย ก่อนจะกลับมาบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกันสามีผู้ตาย มาหาที่บ้านสอบถามเรื่องผู้ตาย ที่หายตัวไป ด้วยความตกใจ จึงนำเสื้อและทรัพย์สินผู้ตายทั้งหมดไปทิ้งไว้ลำคลองหลังบ้านพัก  

 และรุ่งเช้าวันที่ 4 พ.ย. ตนได้เดินทางไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งช่วงบ่าย หลังจากมีการพบศพผู้ตายแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ไปเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ตนให้การปฏิเสธ แต่ต้องจำนนต่อหลักฐานพยานที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ จึงยอมรับสารภาพ ดังกล่าว

 พ.ต.อ.กุณฑล กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สอบพยานแวดล้อมต่างๆ ร่วมถึงหลักฐานอื่นๆ มากเพียงพอ

จนมั่นใจว่านางณัฐณิชา มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี อย่างไรก็ตามหลังจากให้การรับสารภาพ นางณัฐณิชา ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นำเจ้าหน้าที่ไปยึดนำรถที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมยึดเสื้อผู้ตาย ที่นำไปทิ้ง ส่วนทรัพย์สินยังไม่พบแต่อย่างใด สำหรับคดีดังกล่าว แม้นางณัฐณิชา จะให้การยอมรับสารภาพ ว่าเป็นผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหลักฐานว่ามีผู้อื่นร่วมด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีผู้บุคคลอื่นร่วมด้วยก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน

 สำหรับจับกุมนางณัฐณิชา เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับกุมนางณัฐณิชา โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา ซ่อนเร้นหรือย้ายศพ เพื่อปิดปังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” ลงวันที่ 5 พ.ย.57 ควบคุมตัวดำเนินกฏหมายตามคดีต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์