เพลิงไหม้รร.แมนดารินพระราม4กลางดึกชาวต่างชาติหนีตาย

เพลิงไหม้โรงแรมแมนดารินย่านพระราม4 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 100 ชีวิตหนีตายอลหม่าน


บางรายติดค้างบนตัวอาคารพยายามกระโดดลงมา จนท.เร่งเข้าช่วยเหลืออย่างยากลำบาก ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงจึงสามารถคุมเพลิงไว้ได้ เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 5 กันยายน พ.ต.ท.จักรรินทร์ พันธ์ทอง พงส. (สบ.3) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงแรมแมนดาริน ตั้งอยู่เลขที่ 72  ถ.พระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ พ.ต.อ.สันติ จี้กังวาฬ ผกก.สน.บางรัก และประสานน่วยบรรเทาสาธารณภัยระดมรถดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงคลองเตย บ่อนไก่ พระโขนง  เข้าควบคุมเปลวเพลิง และประสานการไฟฟ้าเพื่อตัดกระแสไฟ

โรงแรมดังกล่าวมี 2 อาคารคืออาคารส่วนหน้าสูง 7 ชั้น และอาคารส่วนหลังสูง 14 ชั้น รวมห้องพักทั้งหมด 372 ห้อง

พบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากชั้น 2 ของอาคารที่ 2 ห้อง 11 ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องที่อยู่ระหว่างปิดปรับปรุงเพื่อทำเป็นห้องคาราโอเกะโดยไม่มีผู้อาศัย ได้มีเปลวเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันอพยพนักท่องเที่ยวที่พักอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมีทั้งชาวจีน ชาวญี่ปุ่น ชาวอาหรับ กว่า 100 ราย โดยให้ปีนลงมาทางบันไดหนีไฟด้านหลังของโรงแรมอย่างโกลาหล
 

นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติบางคนพยายามที่จะกระโดดลงมาจากห้องพักชั้น 10

แต่เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนขึ้นไปไม่ให้กระโดดลงมา ทั้งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนยังติดอยู่ภายในอาคารจำนวนมากไม่สามารถลงมาได้ ซึ่งต่างตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หน่วยผจญเพลิงจึงได้พยายามขึ้นไปบนอาคารช่วยลำเลียงลงมาด้านล่างอย่างยากลำบาก เพราะเปลวเพลิงยังลุกลามไปตามชั้นต่างๆ


พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้พยายามฉีดน้ำเข้าสกัดเปลวเพลิงที่กำลังพวยพุ่งอย่างรุนแรงและกลุ่มควันหนาแน่นมาก


แต่ทำด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นอาคารสูงและคับแคบ นอกจากนี้เจ้าหน้าดับเพลิงต้องใช้รถกระเช้ายกสูงเพื่อฉีดน้ำจากที่สูงลงมาที่ตัวอาคาร ซึ่งเพลิงก็ได้ลุกลามขึ้นไปบริเวณชั้น 5-7 ของอาคารอย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงต้องปิดการจราจรบริเวณถนนพระราม 4  ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก 


อย่างไรก็ตามระหว่างที่ช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในโรงแรมดังกล่าวนั้น

ยังได้รับแจ้งว่าพื้นของอาคารงชั้นที่  7 และ  8 เกิดการทรุดตัว ทั้ง ๆ ที่ ชั้นที่  10 และชั้นที่  11 ยังมีผู้ติดอยู่เป็นจำนวนมากต่างก็เปิดหน้าต่างออกมาโบกผ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ต้องลำเลียงออกมาด้วยความระมัดระวัง ส่วนผู้ที่ถูกช่วยเหลือออกมาได้แล้ว ถูกนำไปพักชั่วคราวที่คริสตจักรที่ 2 สามย่าน หรือโบสถ์สะพานเหลือง ส่วนผู้ที่ยังติดอยู่ภายในเจ้าหน้าที่หน่วยผจญเพลิงบางส่วนได้พยายามเข้าไปในตัวอาคารเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ที่ติดอยู่ภายในโรงแรมอีกจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือลำเลียงออกมาอย่างยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ต้องนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ รับผู้ติดอยู่บนอาคารออกไปแต่ไม่สามารถทำได้เพราะเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดบนอาคารได้ต้องวนบนอยู่หลายรอบ เจ้าหน้าที่พยายามอพยพมาทางบันไดหนีไฟแทน 

ด้านนายเอ (ขอสงวนชื่อสกุล) นักท่องเที่ยวที่ที่พักอาศัยโรงแรมดังกล่าว กล่าวถึงนาทีหนีตายว่า

ตนเข้ามาพักพร้อมภรรยาอยู่ที่ห้อง 1052 ชั้น 10 ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ขณะที่นอนอยู่ในห้องพักพร้อมภรรยาได้เกิดไฟในโรงแรม ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นไฟดับชั่วคราว แต่เมื่อเปิดประตูห้องออกมาดูก็ได้มีกลิ่นควันและเสียงรถดับเพลิง ตนจึงรีบเข้าไปในห้องแล้วโทรศัพท์ลงไปสอบถามที่โอเปอร์เรเตอร์ก็ไม่มีใครรับสาย และในโรงแรมก็ไม่มีสัญญาณเตือนภัยใดๆ ตนพร้อมภรรยาจึงรีบหนีออกจากห้องโดยพบว่าบริเวณข้างห้องด้านหลังมีบันไดลิงหนีไฟสร้างไว้ตนกับภรรยารีบปีนหนีออกมาจากบันไดหนีไฟ
 

"ระหว่างที่ผมกับภรรยาวิ่งไปที่บันไดหนีไฟนั้นได้เคาะประตูเรียกคนที่พักอยู่ในห้องว่าไฟไหม้ต่างคนก็รีบหนีออกมา ตอนที่หนีลงมาทางบันไดหนีไฟนั้นทำด้วยเหล็กขนาดเล็กไต่ลงมาทางบันไดทีละคน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งเด็กผู้ใหญ่หลายคนไต่ลงมาอย่างระมัดระวังเพราะบันไดแคบมากหากก้าวไม่ดีก็อาจตกลงมาได้"นายเอ กล่าวและว่า
 

นายเอ กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ซึ่งมาพักอยู่ในโรงแรมดังกล่าวหลายวันแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะพัก 14 คืนแต่เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ก็ต้องย้ายออก และช่วงเกิดเหตุทางโรงแรมไม่ได้มีการเตือนภัยหรือแจ้งให้ทราบเลยว่าเกิดไฟไหม้และไม่มีสัญญาณเตือนภัยเลย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์