เพลิงโหมบ้านไม้สัก ปางขนุนวอดทั้งหลัง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 มีนาคม 2553 ร.ต.ท. นฤพนธ์ ดาวแจ้ง ร้อยเวรอาญาสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร

ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไม้บ้านไม้ที่บ้านปางขนุน เลขที่ 49 หมู่ที่ 6 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จึงได้รีบรายงาน พ.ต.อ.ธนวรรธน์ อยู่คง ผู้กำกับการ และ พ.ต.ท.เอนก จันทร์ศร รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ทราบพร้อมรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ และเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟ ที่โหมลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว

ซึ่งเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ ยกใต้ถุนสูงอย่างรุนแรง ใช้เวลากว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบลง แต่สร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านถูกเพลิงเผาไหม้วอดทั้งหลัง ชาวบ้านใกล้เคียงผู้ประสบเหตุได้ช่วยกันนำรถอีต๊อกพร้อมพ่วงมูลค่า 5 หมื่นบาท ที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้านรอดจากการถูกไฟไหม้ออกมาได้เพียงคันเดียว จากทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวบ้าน และตรวจสอบแล้วไม่พบมีผู้อาศัยอยู่ในตัวบ้านขณะเกิดเหตุ

เด็กชายทนงศักดิ์ สมฝั้น อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนนาบ่อคำวิทยาคม กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับยายสองคน แม่เสียชีวิต

ส่วนพ่อหนีความแห้งแล้งลงทุนไปทำงานอยู่ที่ประเทศลิเบียได้ปีเศษแล้ว ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน ยายออกไปตกเบ็ดเพื่อหาปลามาทำกับข้าว ส่วนตนไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่บ้านเพื่อนใกล้ๆกัน ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านตะดกนบอกมีเพลิงไหม้จึงรับวิ่งมาดู เห็นเพลิงลุกไหม้จากบริเวณเสาบ้านที่เป็นจุดตั้งคัตเอ้าท์คาดว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจรก่อนที่จะลุกลามไปทั้งบ้าน นอกจากนี้ยังมีเสียงถังแก๊สระเบิดอีกด้วย แม้เพื่อนบ้านและรถดับเพลิงจะช่วยกันอย่างเต็มที่ก็ไม่ทันการณ์

ด้านนางสีมา สมฝั้น อายุ 66 ปี ผู้เป็นยาย กล่าวว่า มีญาติๆวิ่งไปบอกที่อ่างเก็บน้ำท้ายหมู่บ้านว่าเกดเหตุไฟไหม้บ้านของตน

จึงรีบกลับมาแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ไฟไหม้เสียหายเกือบหมดตัวเหลือเพียงรถอีต๊อกคันเดียวเท่านั้น ทองคำหนัก 2 บาท พร้อมเงินสดจำนวน 2,000 บาท คงสูญหายไปหมดด้วย รวมแล้วค่าเสียหายประมาณ 4 แสนบาท เพราะบ้านหลังนี้สร้างมาเกือบ 20 ปีแล้วเป็นไม้สักทั้งหลัง