เผาวอดป่าชุมนุมนายทุนหวังฮุบพื้นที่

วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากพระอาจารย์บุญมี เตชะธัมโม ประธานคณะสงฆ์วัดป่าหนองม่วง (ธ) ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ซึ่งตั้งอยู่ติดกับลำห้วยสำราญ ว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบเผาป่าสาธารณะชุมชน เป็นบริเวณกว้างนับร้อยไล่ ทำให้เกิดกลุ่มควันคลุ้งบนอากาศ ลอยไกลหลายสิบกิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งต้องขึ้นเรือข้ามลำห้วยและเดินเท้า ลัดเลาะตามแนวป่าไปยังจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบว่า ไฟกำลังลุกไหม้ไม้ยืนต้นนานาชนิด ในเขตที่ดินสาธารณะริมห้วยสำราญ พื้นที่เขตตำบลขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

จนล้มระเนระนาด แต่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ถูกไฟเผาเหลือแต่ตอนั้น มีร่องรอยถูกตัดโค่นด้วยเลื่อยหรือขวาน ก่อนที่จะถูกไฟเผาทีหลังเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งไฟยังลุกลามไหม้ต่อไปเรื่อยๆ กินอาณาเขตเป็นบริเวณกว้างนับร้อยไร่ โดยที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าทำการสกัดเพลิงอย่างจริงจัง

ร.ต.ท.ยุทธเดช อินทร์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18.ก.พ.ผ่านมา
 
ได้รับแจ้งจากนายเริง แพงพรม ราษฎรตำบลขะยูง ซึ่งเป็นผู้ที่มาจับจองที่ดินทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่า จึงได้ประสานขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ขะยูง มาทำการฉีดน้ำดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ เพราะรถน้ำเข้าไปไม่ถึง จึงต้องปล่อยให้ลามไหม้ไปเรื่อยๆ จนกว่าไฟจะดับเองตามธรรมชาติ ส่วนสาเหตุนั้นไม่ใช่ไฟป่า เกิดจากการวางเพลิงแน่นอน ซึ่งต้องทำการสอบสวนต่อไป

ด้านพระอาจารย์บุญมี กล่าวว่า คนร้ายจงใจตัดไม้และเผาป่า เพื่อหวังยึดครองพื้นที่สาธารณะดังกล่าว

ซึ่งอยู่ติดลำห้วยและห่างไกลจากหมู่บ้านหลายสิบกิโลเมตร โดยมีนักการเมืองเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ส่งลูกน้องเข้ามาดำเนินการปักหลักในพื้นที่ ใช้อิทธิพลเถื่อนทุกรูปแบบ ซึ่งได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษากับนายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อหามาตรการป้องกันรักษาป่าแล้ว แต่นายทุนยังไม่เกรงกลัว เหิมเกริมรุกเผาป่าจนเหี้ยนเตียนโล่ง เหลือแนวป่าริมห้วยเท่านั้นที่ยังไม่ถูกตัด จึงอยากวอนขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยลงมาตรวจสอบด้วย ก่อนที่ต้นไม้จะเหี้ยนหมดป่า.