เผาวอดบ้านไม้สัก เสี่ยน้อยพันล้าน

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 23 ม.ค. ร.ต.ท.เอกรัฐ สุจริต ร้อยเวร สภ.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี

รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้สัก หลังใหญ่ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามวิทยาลัยสารพัดช่างลพบุรี เลขที่ 139 หมู่ 3 ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จ.ลพบุรี พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ พ.ต.อ.พลังสฤษฏ์ เพชรสดศิลป์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก. สภ.เมืองลพบุรี พ.ต.ท.ดิเรก แจ่มสุธี พงส.สบ 3 รก.หัวหน้า สภ.นิคมสร้างตนเอง และรถดับเพลิงกว่า 30 คัน ไประงับเหตุ
  

เมื่อไปถึงพบเพลิงโหมไหม้เรือนไทยประยุกต์ ไม้สักชั้นเดียวยกพื้นสูง ลักษณะเป็นเรือนรับรองและเรือนจัดเลี้ยงหลังใหญ่ ปลูกสร้างเรียงต่อกัน 4 หลัง

อยู่บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ เรือนแต่ละหลังใช้เสาไม้สักทั้งต้นมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 คนโอบ เพลิงลุกไหม้เรือนไม้สักไปแล้ว 3 หลัง และกำลังลุกลามไปติดหลังที่ 4 โดยถนนด้านหน้ามีประชาชนมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ ต้องกันคนไม่เกี่ยวข้องออกไป พร้อมสั่งปิดถนนฝั่งขาออก 1 ช่องทาง อนุญาตให้รถวิ่งสวนไป-มาในช่องทางเดินรถขาเข้าช่องเพียงทางเดียว เพื่อให้รถดับเพลิงวิ่งเข้าไปดับไฟได้อย่างสะดวก ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร หลังระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามออกไปได้ แต่เพลิงเผาผลาญเรือนไม้สักวอดวายไป 3 หลัง นอกจากนี้ยังไหม้เสาไม้สักขนาด 1 คนโอบ ซึ่งทำเป็นเสาไฟฟ้าวอดวายไปอีกหลายต้น
 

ในที่เกิดเหตุพบ นางจันทร์เพ็ญ ลิ่มทรงพรต อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมลูกและญาติพี่น้อง ยืนดูเหตุการณ์ อยู่ในอาการตื่นตระหนก ตะโกนขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยดับไฟที่ลุกไหม้จนเสียงแหบแห้งเป็นที่น่าเวทนา

เจ้าหน้าที่ต้องกันตัวออกมาให้พ้นรัศมีของเปลวไฟ เนื่องจากมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ เบื้องต้นทราบว่า เรือนไม้สักดังกล่าวเป็นของนายสุปัญญา ลิ้มทรงพรต อายุ 50 ปี หรือ “เสี่ยน้อย พันล้าน” เจ้าของกิจการจำหน่ายรถ จยย.ทุกยี่ห้อในชื่อ “ศรีสมบูรณ์ธุรกิจเซ็นเตอร์” และเจ้าของ ร.ร.เอเชียบริหารธุรกิจ (เอแบค) โรงเรียนเอกชนชื่อดังของ จ.ลพบุรี ซึ่งเสี่ยน้อยเพิ่งถูกมือปืนขี่รถ จยย. ใช้ปืน 11 มม.ยิงเสียชีวิต ขณะขี่รถ จยย.กลับบ้านหลังไปออกกำลังกายที่ ร.ร.พิบูลวิทยาลัย เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา 

นายเฉลิมชัย ลิ้มทรงพรต อายุ 36 ปี เจ้าของ หจก.เฉลิมชัยลพบุรีกลการ เอเย่นต์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดรายเดียวของ จ.ลพบุรี และเป็นหลานชายของเสี่ยน้อย กล่าวว่า

ตามปกติแล้วเรือนไม้สักหลังนี้จะปิดเอาไว้ โดยมีลูกน้องเฝ้าอยู่ จะเปิดให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ หลายเรื่องเป็นครั้งคราว สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คิดว่าน่าจะมีเงื่อนงำ เพราะบริเวณข้างบ้าน ซึ่งเป็นถนนทางเข้าหมู่บ้านศรีกรีนปาร์ค และมีป่าหญ้าขึ้นรกครึ้มข้างทางพบว่า มีคนมาลอบเผาป่าหญ้าและมีกองฟางข้าวถูกเผาทิ้งเอาไว้ด้วย ซึ่งในจุดนี้อยากให้ตำรวจสอบสวนหาตัวว่า ใครเป็นคนเผาป่าหญ้าดังกล่าว
 

ต่อมาเจ้าหน้าที่วิทยาการ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยละเอียดพบว่า เพลิงลุกไหม้เรือนไม้เสียหายไป 3 หลัง และลามเลียไปยังหลังที่ 4 ได้รับความเสียหายราว 30 เปอร์เซ็นต์
 
รวมทั้งเสาไม้สักขนาดใหญ่ และต้นปาล์มที่ปลูกอยู่ในบ้านก็ถูกเพลิงไหม้ไปอีกหลายสิบต้น บริเวณข้างบ้านพบร่องรอยการเผาป่าหญ้า และคาดว่าน่าจะเป็นต้นตอของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ โดยในตอนเช้ามีพยานเห็นมีคนมาจุดไฟเผาป่าหญ้า คาดว่าหลังจากที่จุดไฟเผาป่าแล้ว ไม่มีการควบคุมเพลิงให้ดี ประกอบกับในช่วงดังกล่าวมีลมพัดกระโชกแรง สะเก็ดไฟจึงปลิวไปตกใส่หลังคาเรือนไม้สัก จนเกิดไฟลุกไหม้ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สั่งห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินในซากกองเพลิงอย่างเด็ดขาด จากนั้นจะตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
 

 สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า น่าจะมาจากอาถรรพณ์ และความเฮี้ยนของวิญญาณเสี่ยน้อย

โดยก่อนหน้านี้ หลังจากเสี่ยน้อยถูกยิงตายไปเพียง 3 วัน ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นในห้องนอนของเสี่ยน้อย ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของโชว์รูมจำหน่ายรถ จยย. เดชะบุญเหตุเกิดช่วงเช้า และมีคนเห็นก่อน จึงแจ้งรถดับเพลิงไปดับได้ทัน ทรัพย์สินเสียหายเพียงเล็กน้อย และขณะเกิดเพลิงไหม้เรือนไม้สักของเสี่ยน้อยอยู่นั้น ปรากฏว่ารถดับเพลิงของ อบต.พรหมมาสตร์ วิ่งบรรทุกน้ำมาเพื่อช่วยดับไฟ ขณะมาถึงหน้าห้างบิ๊กซี ลพบุรี รถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำกลางถนน และไถลไปเฉี่ยวชนรถ จยย.ซูซูกิ ทะเบียน กกก 571 ลพบุรี ได้รับความเสียหาย และคนขับขี่ได้รับบาดเจ็บ 

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พูดคุยแสดงความเสียใจกับนางจันทร์เพ็ญ ลิ้มทรงพรต ภรรยาของเสี่ยน้อย เจ้าของบ้าน พร้อมสั่งกำชับให้ตำรวจเจ้าของคดีสังหารเสี่ยน้อย เร่งรัดสืบสวนหามือปืนมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ขณะที่นางจันทร์เพ็ญกล่าวว่า ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีกระแสข่าวออกไปว่ามีการปล้นร้านศรีสมบูรณ์ จำหน่ายรถ จยย.ของตน ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้บงการจะซ้ำเติมกันไปถึงไหน แค่นี้ก็เจ็บซ้ำมากพอแล้ว ส่วนค่าเสียหายในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และนางจันทร์เพ็ญก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำประกันอัคคีภัยไว้กับบริษัทใดๆทั้งสิ้น