เผยภัยลักเด็ก6เดือนหาย14

พม.เปิดตัวเลขเด็กหายช่วงปิดเทอม เฉพาะปี 2549 มากถึง 82 ราย และตั้งแต่ต.ค.49-มี.ค.50

หายไปแล้ว 14 ราย

จากจ.สมุทรสงคราม สมุทรสาคร อุดรธานี และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน ระบุเป็นช่วงปิดเทอม นิยมเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ และถูกหลอกตั้งแต่ขนส่งหมอชิต ส่วนใหญ่เป็นชายมากกว่าหญิง

ขณะที่สุพรรณฯ

ผู้ปกครองเด็กร้องตำรวจช่วย หลังพบรถตู้ป้วนเปี้ยนในหมู่บ้านหวั่นเป็นแก๊งลักเด็กตามที่มีข่าวสะพัดในช่วงนี้ แถมโทร.ไปแจ้งตำรวจกลับพูดจาไม่ดีใส่

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงาน

จากจ.สุพรรณบุรีว่า ผู้ปกครองพร้อมเด็กชาย-หญิง 7 คน เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี กรณีพบรถตู้ลึกลับมีพฤติกรรมคล้ายรถตู้จับเด็กในอ.ศรีประจันต์ และตำรวจ 191 สุพรรณบุรี พูดจาไม่เหมาะสมเมื่อประชาชนโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือ

นางบุญยืน เขียวอ่อน อายุ 35 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 127/2 หมู่ 7 ต.มดแดง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวและเพื่อนจำนวน 7 คนขี่รถจักรยานไปโรงเรียนวัดวังพลับใต้ เพื่อไปดูประกาศผลสอบ ขณะเดินทางกลับมีรถตู้สีขาวคาดดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

แต่ติดสติ๊กเกอร์ด้านหน้าว่ารถรับส่งนักเรียน

ซึ่งคนที่นั่งใกล้คนขับลดกระจกลงและพยายามชักชวนลูกสาวกับเพื่อนขึ้นรถ แต่ลูกสาวและเพื่อนพยายามหลบเลี่ยงจนมาถึงบ้านแล้วเล่าเรื่องราวให้ฟัง เมื่อตนแจ้งไปที่ตำรวจ 191

เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามข้อมูลว่าอยู่ตรงไหน

เหตุเกิดอย่างไร จนกระทั่งคำสุดท้ายว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่น่าจะออกมาจากปากของตำรวจ

ด้านพ.ต.ท.กิตติวรชัย พิริยะจิตตะ

รองผกก.สส.สภ.อ.ศรีประจันต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ แต่ได้เรียกผู้ปกครองและเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ 7 คน มาสอบปากคำ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

ความน่าจะเป็นมากน้อยแค่ไหน

แต่ที่สอบปากคำเด็กไปบางส่วนพบว่าข้อมูลตรงกัน จึงถือว่ามีความน่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้สูง แต่ต้องเรียกผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาตรวจสอบเพื่อความละเอียดมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีอยู่หลายข้อที่ยังไม่น่าเชื่อ เพราะระบุว่าช่วงพยายามขี่จักรยานหนีมองเห็นในรถมีเด็กถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปากจำนวนหลายคน

นายสุวัฒน์ พูนสุวรรณ ผอ.โรงเรียนวัดวังพลับใต้

เปิดเผยว่า ข่าวลือลักษณะดังกล่าวมีเข้ามาเป็นระยะ ได้พยายามสอบถามผู้บริหารโรงเรียนอื่นๆยังไม่พบเหตุการณ์จริงๆ โดยก่อนหน้านี้ลือที่อ.อู่ทองถึงขนาดว่า มีการผ่าท้องเด็กเอาเครื่องในไปหมด แล้วยัดเงินกลับมาให้ผู้เป็นแม่ 3 หมื่นบาท ทั้งนี้จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้ทราบเป็นระยะต่อไป

น.พ.พลเดช ปิ่นประทีป

รมช.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงปัญหาแก๊งลักเด็กระบาดในหลายจังหวัด ล่าสุดเกิดขึ้นที่อ.ศรีประจันต์ว่า นอกจากการลักพาเด็กแล้วยังมีการลักพาตัวผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่ เพื่อการค้ามนุษย์ด้วย

โดยวันที่ 9 เม.ย.นี้

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์บุคคลสูญหาย กระทรวงยุติธรรม จะประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา อาจต้องกระจายข้อมูลให้รับรู้ว่าพื้นที่ใดมีบุคคลสูญหายมากน้อยเพียงใด ในรูปแบบไหน และจะประสานความช่วยเหลืออย่างไร

น.พ.พลเดชกล่าวอีกว่า

เบื้องต้นอาจต้องติดรูปบุคคลที่สูญหายไว้บนสถานีตำรวจ และประกาศทางสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมมีส่วนร่วมแก้ปัญหาและติดตามบุคคล สังคมจึงต้องตื่นตัวกับเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงจะจัดระบบรองรับทั้งการป้องกัน ติดตามและดูแลสภาพจิตใจของผู้ปกครองที่บุตรสูญหาย เบื้องต้นโทร.แจ้งได้ที่ศูนย์ประชาบดี 1300

ด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม

ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2547-2549 มีบุคคลสูญหายทั้งสิ้น 755 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มากที่สุดและจะหายในช่วงปิดเทอม เฉพาะปี 2549 มีเด็กหายทั้งสิ้น 82 ราย และล่าสุดตั้งแต่เดือนต.ค.2549มี.ค.2550 มีเด็กหายทั้งสิ้น 14 ราย

โดยจังหวัดที่มีข้อมูลชัดเจน

ได้แก่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร อุดรธานี และหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ช่วงปิดเทอมนิยมเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ จะโดนล่อลวงตั้งแต่มาถึงสถานีขนส่งหมอชิต ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าผู้หญิง เพื่อนำไปค้าแรงงาน

"การดำเนินการแก้ไขปัญหา

จะต้องทำ 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การเฝ้าระวัง ซึ่งครอบครัว ชุมชนจะต้องร่วมกันดูแลบุตรหลาน นอกจากนี้ทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกพื้นที่

ให้ใช้เครือข่ายเข้าให้ความรู้กับเด็กว่า

อย่าหลงเชื่อคนง่ายหรืออย่าไปกับคนที่ไม่รู้จัก และ 2.เมื่อญาติพี่น้องหายออกจากบ้าน ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะแจ้งเร็วเท่าไหร่ จะติดตามคนสูญหายได้ง่ายและเร็ว" นายวัลลภกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด