พ่อครูสาวเหยื่อหนุ่มคลั่งรักบุกยิงคาบ้าน ยังทำใจไม่ได้ตั้งคำถามสังคมไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ผู้หญิงไม่รักถึงต้องฆ่ากันเลยหรือ เคยนึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่บ้างไหม บอกทั้งสองคนเหมือนอา-หลาน พร้อมอโหสิ แม้จะเจ็บปวด...
จากเหตุฆาตกรรม น.ส.นันทรัตน์ จองมล หรือ ครูอิง อายุ 23 ปี ชาว จ.ลำปาง ครูผู้ช่วยบรรจุใหม่ ทำงานอยู่ที่โรงเรียนใน อ.แม่สอด จ.ตาก กลับมาเยี่ยมบ้านใน อ.เถินช่วงวันหยุดเข้าพรรษา ถูกนายคงสุวรรณ ติ๊บปะสอน อายุ 35 ปี หนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นญาติกัน ที่แอบหลงรักใช้อาวุธปืนลูกกรดบุกเข้าไปยิงครูอิงถึงในบ้าน ขณะกำลังจะรับประทานอาหารเย็นจนเสียชีวิตต่อหน้าครอบครัว ส่วนนายคงสุวรรณ หลังก่อเหตุถูกญาติผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ จนอาการสาหัสยังนอนรักษาตัวในห้องไอซียูโรงพยาบาลลำปาง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 2 ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.นันทรัตน์ จองมล ครูสาวเคราะห์ร้าย พบว่าบรรยากาศภายในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนบ้าน และเพื่อนของผู้ตายทยอยมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ และแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย อย่างต่อเนื่อง
นายธวัช จองมล อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.นันทรัตน์ เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วครอบครัวของตนเองกับ นายคงสุวรรณ คนร้าย ก็ถือว่าเป็นญาติกัน มีอะไรก็มาปรึกษาหารือตลอด ซึ่งตนเองก็ให้ความเอ็นดูนายคงสุวรรณเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ส่วนลูกสาวของตนก็เปรียบเสมือนหลานของนายคงสุวรรณ และไม่ได้คิดเกินเลยอะไรไปมากกว่าคำว่า อา หลาน อีกทั้งนายคงสุวรรณเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่กี่เดือน เพราะเพิ่งกลับจากไปทำงานที่ประเทศเกาหลี และเลิกรากับภรรยามาจากจังหวัดทางภาคอีสานมา จึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
พ่อผู้สุญเสีย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนเองและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรวดเร็วเกินไป เคยเห็นแต่ข่าวในทีวี ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง จึงอยากจะฝากถึงคนสังคมในยุคนี้ว่า ตนเองเคยผ่านชีวิตการเป็นวัยรุ่นมาก่อนเข้าใจว่า ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ดีงาม แต่ก็ย่อมมีสมหวังและผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทำไมความรักของคนในยุคปัจจุบันถึงได้รุนแรงมากขนาดนี้ หากไม่สมหวังถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลยหรือ เคยคิดถึงหัวอกคนที่เป็นพ่อเป็นแม่บ้างไหมว่าจะทรมานแค่ไหน ที่ต้องเห็นลูกของตนเองถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา และหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะสะท้อน ถึงความสูญเสียและให้ทุกคนรู้จักความยั้งคิดได้บ้าง
แต่ทั้งนี้ หากตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาขอขมาตน แม้ว่าตนเพิ่งจะสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักและเป็นอนาคตของครอบครัวไป จะทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ตาม พร้อมที่อโหสิกรรมให้ และทางครอบครัวจะทำการฌาปนกิจศพลูกสาว ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ค.นี้ ส่วนในเรื่องของคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
