เฒ่าใจทราม ทุบหัวฆ่าหมา จ่อเปิบพิสดาร-อีกตัวรอด เห็นเจ้าของรีบวิ่งเข้าใส่

เฒ่าใจทรามเมืองอุดรฯ ใช้บ่วงดักเจ้าน้ำตาล สุนัขพันธุ์ทางเพศเมีย ทุบหัวกะโหลกยุบสิ้นใจ แน่นิ่ง เตรียมเปิบพิสดาร ตร.พร้อมเจ้าของสุนัข บุกค้นบ้าน รวบ 3 ผู้ต้องหา เคราะห์ดี 'เจ้ามั่งมี' สุนัขอีกตัวยังไม่โดนฆ่า วิ่งปรี่หาเจ้าของ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วีรชัย ไกรวาปี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุ สุนัขไทยพันธุ์ทางหรือพันธุ์ผสม จำนวน 1 ตัว ถูกฆ่าและเตรียมชำแหละเนื้อเปิบพิสดาร ภายในบริเวณบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.16 บ้านนาดอน ซ.พรสวรรค์ 5 ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ด.ต.ธีระชัย เพ็งคำศรี หน.ตชต.หนองนาคำ และผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน รวม 4 นาย พร้อมด้วย นายเทพธัม สายสิงห์  เจ้าของสุนัข ชี้ให้ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายจำนวน 3 คน 

ประกอบด้วย นายสมพงษ์ เสน่ห์ขำ อายุ 73 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ นายจันทร์รัก หารินไสล อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และนายณรงค์ศักดิ์ ตะระชู อายุ 37 ปีชาวบ้าน บ้านนาดอน ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลาง บ่วงดักสุนัขทำด้วยไม้ยูคายาวประมาณ 5 เมตร และลวดสลิง จำนวน 2 อัน จอบ 1 ด้าม มีดทำครัว 2 เล่ม กระเทียม 1 ถุง และสุนัขไทยพันธุ์ทางเพศเมีย สีน้ำตาล ชื่อ "เงินล้าน" อายุ 1 ปี 6 เดือน นอนเสียชีวิตจากการถูกทุบที่ศีรษะจนยุบ หลังจากติดบ่วงบริเวณรั้วหลังบ้านของ นายสมพงษ์ ที่ใช้สำหรับเลี้ยงวัว จำนวน 30 ตัว ในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่

และขณะตำรวจกำลังสอบสวนในที่เกิดเหตุ พบลูกสุนัขเพศเมีย อีก 1 ตัว คือ "เจ้า มั่งมี" อายุ 5 เดือน วิ่งอยู่ในบริเวณบ้าน เข้ามาหาเจ้าของคล้ายกับขอความช่วยเหลือด้วยอาการตกใจสุดขีดหลังเห็นเจ้าเงินล้านถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา

นายเทพธัม สายสิงห์ เจ้าของสุนัข ให้การว่า ตนเป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร อยู่ปากทางเข้าชุมชนพรสวรรค์ รวมทั้งหมด 10 ตัว ซึ่งสุนัขทุกตัวจะมีลักษณะพิเศษ คือนิ้วเท้าด้านหลังจะมีข้างละ 6 นิ้ว รวมทั้งหมด 22 นิ้ว และเริ่มตั้งแต่เมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา ตนได้นำพ่อแม่พันธุ์ จำนวน 1 คู่ มาเลี้ยงและเพิ่มจำนวนประชากรสุนัขมาเรื่อยๆ และทุกตัวจะมีนิ้วเท้า รวม 22 นิ้ว และให้โชคถูกหวยเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว แทบทุกงวด งวดละ 1-2 หมื่นบาท เพราะเป็นลักษณะสุนัขนำโชคก็ว่าได้

โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สุนัขของตนทยอยหายตัวไปทีละตัวสองตัว รวมทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย เจ้าเงินมาก เพศผู้อายุ 5 เดือน, เจ้าเงินหลาย เพศเมีย อายุ 1 ปี 6 เดือน, เจ้ามั่งมี เพศเมีย อายุ 5 เดือน และเจ้าเงินล้าน เพศเมีย อายุ 1 ปี 6 เดือน จึงออกตามหา พบนายสมพงษ์ และสมุนกำลังถือถุงปุ๋ยใส่สุนัขของตน นำมาวางอยู่หน้าบ้านของนายสมพงษ์ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบเข้าสอบจับกุมตัว คาดว่ากำลังจะนำสุนัขไปทำอาหารเปิบพิสดาร และสุนัขที่หายไปทั้ง 4 ตัว พบกลายเป็นศพ 1 ตัว ยังมีชีวิต 1 ตัว และสูญหายไปไม่เห็นซาก 2 ตัว 

ร.ต.อ.วีรชัย ไกรวาปี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จาการสอบสวน นายสมพงษ์ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ รับสารภาพว่าเป็นคนทำบ่วงดักสุนัขที่มาชอบไล่กัดวัว เป็ดและไก่ ภายในบริเวณบ้านของตนเป็นประจำ ซึ่งตนเกิดปีวอกไม่ค่อยถูกโฉลกกับสุนัข และเป็นคนลงมือฆ่าสุนัขรวม 3 ตัว และทุกครั้งจะให้ นายจันทร์รัก และนายณรงค์ศักดิ์ นำสุนัขไป ไม่ทราบว่านำไปกินหรือนำไปฝัง ส่วนตัวของตนไม่กินเนื้อสุนัขอยู่แล้ว และยอมรับผิดขอชดใช้ค่าเสียหาย และยกมือขอโทษผู้เสียหายในสิ่งที่ตนกระทำลงไป

ส่วน นายจันทร์รัก และนายณรงค์ศักดิ์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้นำซากสุนัขไปกิน แต่จะนำไปฝัง แต่พฤติกรรมและของกลางที่พบในที่เกิดเหตุไม่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์" ควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.กฤติเดช จันลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายที่โรงพัก ซึ่งคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยอมความกันในชั้นพนักงานสอบสวน โดยชดใช้แทนทรัพย์สินที่เสียหาย เป็นลูกวัว 1 ตัว และให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้เป็นอันขาด เนื่องจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเป็นเพื่อนบ้านกัน และรู้จักกันมานาน