เซลส์แมนแสบหลอกขายปืนทหารปืนใหญ่ยกกองร้อย - ก่อนเชิดเงินหายจ้อย

"หลอกขายปืน"


นครศรีธรรมราช เซลส์แมนขายปืนล้วงคองูเห่า บังอาจตุ๋นทหารปืนใหญ่ ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 นครศรีธรรมราช ยกกองร้อย โดยหลอกให้ผ่อนปืนพกสวัสดิการสุดท้ายหายจ้อยพร้อมเงินกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 ก.พ.) จ.ส.อ.ปัญญา นามมีชัย ทหารชั้นประทวนสังกัด ป.พัน 105 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเพื่อนทหารสังกัดเดียวกัน 12 นาย ได้ร่วมกันเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ถูกนายอนุศาสน์ ศรีอนันต์ อ้างว่าเป็นพนักงาน บจก.กิจจาพาณิชย์ 70 ถ.เจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. มาหลอกขายอาวุธปืนในโครงการสวัสดิการอาวุธปืนเพื่อสวัสดิการทหาร

ทั้งนี้ พวกตนและกลุ่มทหารที่ถูกหลอกได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไว้แล้วเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา

"อ้างโครงการสวัสดิการทหารให้ซื้อสดหรือผ่อนก็ได้"


จ.ส.อ.ปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 นายอนุศาสน์ ซึ่งเป็นตัวแทนของ บจก.กิจจาพาณิชย์ ได้เข้ามายังหน่วยเสนอโครงการสวัสดิการอาวุธปืน ซึ่งพวกตนก็ได้สนใจ ประกอบกับหน่วยสังกัดถูกส่งไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมาก จึงได้สั่งจองอาวุธปืน ส่วนใหญ่จองปืนขนาด .357 ทั้งประเภทเงินสดและเงินผ่อน โดยมีหลักเกณฑ์ว่า ประเภทเงินสดจะได้รับอาวุธปืนที่สั่งจองภายใน 90 วัน ประเภทเงินผ่อนจะได้รับภายใน 10 เดือน

หน่วยที่พวกผมสังกัดสั่งจองเป็นเงินสดจำนวน 10 นายเป็นเงิน 227,540 บาท อีก 2 นายสั่งจองเงินผ่อน แต่เมื่อถึงเวลากำหนดพวกผมก็ไม่ได้รับการติดต่อจากนายอนุศาสน์ กระทั่งติดต่อทวงถามหลายครั้งก็มีข้ออ้างขัดข้องในการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย อ้างว่าปลัดกระทรวงไม่ยอมเซ็น

จ.ส.อ.ปัญญา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้มีการติดต่อไปอีก สุดท้ายนายอนุศาสน์ไม่ยอมรับสาย จนเวลาล่วงเลยร่วม 2 ปี ต้นเดือนมกราคม 2550 พวกตนจึงได้เดินทางเข้า กทม.ไปยัง บจก.กิจจาพาณิชย์ ได้รับแจ้งว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการโอนเงินจากนายอนุศาสน์

"นานกว่า 2 ปียังไม่ได้ปืนตามสัญญา"


และก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ด้วย และพยายามบ่ายเบี่ยง กระทั่งพวกตนยืนยันให้นายอนุศาสน์ มาพบและได้มีการเจรจารับเคลียร์เรื่องทั้งหมดแล้วเสร็จปลายเดือนมกราคม 2550 เมื่อพวกตนกลับมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อนายอนุศาสน์ได้อีกเลย

ทาง บจก.กิจจาพาณิชย์ ก็อ้างว่านายอนุศาสน์ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2550 พวกตนทั้งหมดจึงได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม สว.เวร สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอนุศาสน์ให้ถึงที่สุด

เท่าที่ทราบไม่เฉพาะสังกัดหน่วยผมเพียงเท่านั้นที่ถูกนายอนุศาสน์ เข้ามาหลอกต้ม ทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไปถึงจังหวัดภาคใต้ทั้งหมดที่มีทหารในกองทัพภาค 4 สังกัดอยู่นับ 100 นายที่ถูกหลอกซื้อขายอาวุธปืนในครั้งนี้ เฉพาะที่ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 เองมีทั้งที่ ส.พัน 24, มทบ.41, ทัพภาค 4, พล.ร.5, พล พัฒนา 4, คิดเป็นจำนวนเงินร่วม 10 ล้านบาท สำหรับอาวุธปืนที่นายทหารส่วนใหญ่สั่งซื้อเป็นชนิด .357 ลำกล้องขนาด 4 นิ้ว ราคากระบอกละ 42,480 บาท จ.ส.อ.ปัญญา กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์