เครื่องบินทำฝนเทียมร่อนลงกลางนา

"ปีกหัก หวั่นไฟไหม้"


เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 ส.ค. พ.ต.ท.ชวลิต บุศยรัตน์ รอง ผกก.หน.สภ.ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีอุบัติเหตุเครื่องบินของกองทัพอากาศไทย ร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางทุ่งนา ในเขตพื้นที่บ้านคอหนองบัว หมู่ 3 บ้านกระโดน หมู่ 8 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต. อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และประสานนำรถดับเพลิงมาที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดไฟไหม้

ที่เกิดเหตุพบเครื่องบินบราโว บี 67 ของกองทัพอากาศไทย หมายเลขเครื่อง 46152-021 ประจำฝูงบิน 461 จ.พิษณุโลก ช่วยราชการทำฝนหลวง ประจำศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองบิน 1 นครราชสีมา จอดแน่นิ่งอยู่กลางทุ่งนาในลักษณะส่วนท้องพาดเกยกับคันนา ปีกท้ายห้อยพับ ปีกกางด้านซ้ายและขวาหักทรุด และใบพัดคู่หน้าบิดเบี้ยว

บริเวณ โดยรอบมีรอยไถลของเครื่องบิน จนข้าวในนาพังราบเรียบกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ส่วนนักบินบนเครื่อง 2 นายคือ นาวาอากาศเอกพัสกร เกิดสุข และเรืออากาศเอกสุรพงษ์ บุญเชิญ นักบินประจำฝูงบิน 461 พิษณุโลก พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงฯ อีก 8 นาย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


"เตรียมสกัดเพลิง"


ต่อมา น.อ.สฤษพงษ์ วัชยางกูร ณ อยุธยา รอง ผบก.กองบิน 1 นครราชสีมา และกำลังเจ้าหน้าที่เทคนิคกองบิน 1 นำเครื่องมือและอุปกรณ์กู้ภัยมาตรวจสอบ โดยกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ถอยออกห่างจากตัวเครื่องบินอย่างน้อย 200 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมชุดผจญเพลิงและถังน้ำยาดับเพลิงมาคอยควบคุมสถาน การณ์ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น

จากการสอบสวนทราบว่า เครื่องบินลำดังกล่าว อยู่ในสังกัดฝูงบิน 461 พิษณุโลก สภาพค่อนข้างเก่า มีอายุใช้งานมานานกว่า 30 ปี ได้รับการประสานงานให้มาช่วยราชการฝนหลวง ประจำศูนย์ฝนหลวงกองบิน 1 เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ช่วงสายที่ผ่านมา นักบิน 2 นายพร้อมเจ้าหน้าที่ฝนหลวงอีก 8 คน ทำการบินโปรยสารเคมีเพื่อทำฝนเทียมในน่านฟ้าเหนือพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังจากบินปฏิบัติการทำฝนหลวงเสร็จสิ้น นักบินได้พาเครื่องบินกลับสู่ฐานสนามบินกองบิน 1


"ประสบเหตุขัดข้องร่อนลงฉุกเฉิน"


ขณะบินกลับเครื่องบินประสบปัญหาขัดข้อง ปีกหางได้รับความเสียหายจนหักพับห้อยโตงเตง ทำให้นักบินบังคับเครื่องลำบาก จึงพยายามบินต่ำเพื่อหาที่ลงจอดฉุกเฉินและเดินเครื่องให้เบาที่สุด จนกระทั่งนักบินเห็นทุ่งนาบริเวณกว้าง จึงตัดสินใจพาเครื่องบินจอดบนทุ่งนา แต่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องร่อนลงกระแทกพื้นดิน ก่อนไถลไปไกลกว่า 200 เมตร จนแน่นิ่ง โชคดีที่นักบินและเจ้าหน้าที่ฝนหลวงทุกคนปลอดภัย หลังเกิดเหตุทางชุดเจ้าหน้าที่เทคนิคกองบิน 1 ได้ทำการแยกชิ้นส่วนย่อยของเครื่องบิน เพื่อขนย้ายกลับฐานบินต่อไป

อีกราย เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ศูนย์ควบคุมวิทยุการบิน สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี ได้รับการติดต่อจากกัปตันเครื่องบินสายการบินแห่งชาติลาว หมายเลขเครื่อง RDPL 34132 ขออนุญาตนำเครื่องพร้อมผู้โดยสารจำนวน 48 คน เป็นผู้ใหญ่ 47 คน เด็ก 1 คน และลูกเรือ 5 คน


"ฝนตกหนัก ไม่สามารถลงจอดได้"


ลงจอดฉุกเฉิน ซึ่งทางสนามบินนานาชาติอุบลได้อนุญาตให้ลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี

นางอัมพร วรรณโก ผอ.สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเครื่องบินที่ขอลงจอดฉุกเฉิน เป็นเครื่องบินโดยสาร ATR 60 ที่นั่งของสายการบินแห่งชาติลาว บินจากเสียมราฐ ประเทศเขมร จะไปลงที่สนามบินปากเซ ประเทศลาว แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักไม่สามารถนำเครื่องลงได้ จึงได้ติดต่อขออนุญาตนำเครื่องลงฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และลูกเรือทุกคน.


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์