เครียดนายดุขับแบ็คโฮไล่ทับเพื่อนร่วมงานดับ


        เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น.  วานนี้  พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พนักงานสอบสวน (สบ. 3) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุคนคลุ้มคลั่งขับรถแบ็คโฮ ทับคนเสียชีวิต  บริเวณไซต์งานก่อสร้างทางรถไฟฟ้าสายตลิ่งชัน-บางซื่อ (สายสีแดง) ถ.ริมทางรถไฟตัดถนนชัยพฤกษ์  ซ.ชัยพฤกษ์ แขวงและเขตตลิ่งชัน จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวน


        พบศพนายจักรกฤษ บุญจันทร์ อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แคมป์คนงาน อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 4 ต.กุดนกเป้า อ.เมือง จ.สระบุรี สวมกางเกงยีนส์ขายาว ใส่เสื้อคลุมสีกากีมีแถบสะท้อนแสง สภาพท้องแตกไส้ทะลัก ห่างจากศพไม่มากนัก พบนายวทัญญู สัมพันธ์วงศ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 6 ต.ระแอ อ.พิบูลย์มังสาหาร จ.อุบลราชธานี นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับรถแบ็คโฮ สภาพรถวิ่งส่ายไปมา โดยเจ้าตัวพูดจาไม่รู้เรื่อง ส่งเสียงโวยวาย ไปทั่วบริเวณ  พร้อมทั้งตะโกนไม่ให้ช่างภาพถ่ายรูป เจ้าหน้าที่จึงได้ขอความร่วมมือกับช่างภาพไม่ให้ถ่ายภาพ เพื่อให้นายวทัญญู สงบสติอารมณ์  และกันคนออกไปเพราะกลัวจะถูกนายวทัญญูขับรถทับ เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมอยู่เป็นเวลานาน ก็ไม่ยอมลงจากรถ


        ต่อมาเวลา 01.40 น.  นายวทัญญูได้ยอมมอบตัวกับทางตำรวจ โดยมีเงื่อนไขว่าให้ตำรวจนำรถกระบะของตำรวจเข้ามาจอดรับที่รถแบ็คโฮ  เพราะกลัวจะถูกประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถไปรับมาให้การที่โรงพัก  แต่ยังให้การวกวน จึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องสืบสวน


        สอบสวนนายเจียม บุญจันทร์ อายุ 60 ปี พนักงานบริษัท ภัทรวรา ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมางานดังกล่าว ให้การว่า  ผู้ตายเป็นหลานชายของตน ก่อนเกิดเหตุนายวทัญญู ซึ่งเป็นพนักงานขับรถแบ็คโฮ ได้นั่งดื่มสุรา จนเกิดอาการมึนเมา  นั่งบ่นว่า ถูกหัวหน้างานตำหนิจะตัดเงินเดือน โดยบอกว่าจะตัดเงิน


       นายเจียมให้การต่อว่า จากนั้นนายวทัญญู ก็ออกบอกเพื่อนๆว่าจะไปขับรถแบ็คโฮเล่น แต่ผู้ตายซึ่งเป็นรปภ.เห็นว่านอกเวลางาน หากไปขับรถเล่นจะถูกหัวหน้าตำหนิเอาก็เลยเข้าไปห้าม  นายวทัญญูที่นั่งอยู่บนรถ โมโหได้เลื่อนคันชักส่วนที่เป็นมือตักตบเข้าไปที่ร่างของผู้ตาย แล้วขับรถทับจนผู้ตายไส้ทะลัก  เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ต่างหนีตายกันอลหม่าน จนเจ้าหน้าที่มาเจรจา กว่า 2 ชั่วโมงจึงยอมมอบตัว


       เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ จะต้องตรวจความเสียหายอีกครั้งก่อนตั้งข้อหาเพิ่ม 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์