เขมรยอมขอโทษไทยรับทำเกินเหตุ

เขมรยอมขอโทษไทยรับทำเกินเหตุ

"กัมพูชา" ยอมขอโทษยิง ฮ.ทัพเรือแล้ว รับทำเกินกว่าเหตุ เผยเหตุ 3 ข้อหลักทำให้เกิดปัญหา

แจงปรับแผนส่งเสบียงใช้ทางเท้าชั่วคราว "โฆษกกลาโหม" เชื่อเหตุยิง ฮ. ไม่กระทบประชุมจีบีซี 21 ธ.ค.นี้แน่

18ธ.ค.2554 พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนายวิกโยธิน และในฐานะผู้บัญชากรกองกำลังจันทบุรี-ตราด เปิดถึงผลการประชุมเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา กรณีที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ 212 ของกองทัพเรือจนได้รับความเสียหายบริเวณกองกำลังจันทบุรี-ตราด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า การประชุมในครั้งนี้ไม่ถือว่าได้ข้อยุติอะไร โดยทางฝ่ายกัมพูชาได้ส่งผู้บัญชาการทหารประจำจังหวัดเกาะกง ซึ่งดูแลและควบคุมทหารที่อยู่ติดเขตแดนของไทย 

สำหรับกรณีดังกล่าว มีการพูดคุย 3 เรื่อง คือ 1.ความผิดพลาดที่เกิดจากแผนที่ที่ใช้ไม่ตรงกัน ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ประมาณ 500 เมตร 2.การติดต่อของฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยเหนือกับหน่วยรองจนไปถึงผู้ปฎิบัติ ไม่มีเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร เช่น เมื่อฝ่ายเราติดต่อไปว่าตอนบ่ายจะนำเฮลิคอปเตอร์บินปฎิบัติภารกิจ เขาสื่อสารไปถึงลูกน้องของเขาไม่ทันเวลา และ 3.ฝ่ายกัมพูชา ตั้งแต่ที่มีการปะทะกันบริเวณประสาทพระวิหาร เขาได้สั่งกำชับว่าหากมีการรุกล้ำทางอากาศยานให้ใช้อาวุธได้ทันที เขาก็ยึดถือคำสั่งนั้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เกิดความเข้าใจผิดกัน 
                   
“ผู้บัญชาการทหารประจำจังหวัดเกาะกง ยอมรับ และขอโทษที่ทางกำลังทหารฝ่ายกัมพูชาประมาทจนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเราก็พูดกับเขาว่า เราทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนบ้านกัน หากเราล้ำแดนของเขาจริง ก็ให้ประท้วงก็ได้ ทำไมต้องยิงกัน ซึ่งเขาก็บอกว่าขอโทษที่ทำเกินกว่าเหตุ และเขาจะนำเรื่องทั้งหมดไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชาให้รับทราบเพื่อจะได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของไทย แล้วค่อยมาหารือกันอีกครั้ง สำหรับการนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินปฎิบัติภารกิจหรือการส่งเสบียงในครั้งต่อไปนั้น เราก็มีการพูดคุยกัน โดยระยะแรกเราต้องส่งทางเท้าไปก่อน ส่วนการนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปในพื้นที่ทับซ้อน ต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่าย คุยกันและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและแบ่งพื้นที่กันให้เหมาะสม เช่น ถ้าแผนที่ของเขากับของเราทับซ้อนกัน ก็ไม่ต้องเข้าพื้นที่นั้น หรือถ้าเข้าก็ต้องเข้าด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และต้องมีการประสานงานเพิ่มมากขึ้นและต้องดูพื้นที่จริงกันอีกครั้ง” พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าว 
   
เมื่อถามว่า ในส่วนที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเครื่องมือสื่อสารไม่ดีนั้น พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ต่อไปคงต้องกำหนดเส้นทางการติดต่อ และมีผู้ประสานงานกันโดยตรงโดยสารมารถติดต่อกับผู้ที่อยู่บริเวณตามแนวชายแดนได้ด้วย ทั้งนี้ได้รายงานให้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้ได้รับทราบแล้ว โดยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นห่วงกำลังพลเกี่ยวกับขวัญ และกำลังใจ และกำชับให้อยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งให้พิจารณาถึงเหตุผล เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน 
    
เมื่อถามว่า ทางกัมพูชารับปากหรือไม่ว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก พล. ร.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ก็คุยกัน แต่ต้องให้ระดับผู้ใหญ่คุยกันอีกที แต่หน่วยปฎิบัติที่อยู่ในพื้นที่ต้องประสานงานกัน และคาดว่าจะไม่มีเหตการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก 
    
ทางด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กรณีนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เนื่องจาก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้แนวทางการดำเนินการหากมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างตามแนวชายแดน โดยให้ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่รีบหารือในกรอบขั้นต้นกันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว อะไรที่ไม่เข้าใจหรือมีปัญหาให้มาพูดคุยกันและหารือร่วมกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์