ฮือขับไล่พระเท้าแชร์-ปล่อยเงินกู้-กกสาว

ม็อบสุดทนเจ้าคณะสันทราย-สั่งพ้นวัด


ม็อบชาวบ้านสันทราย ฮือขับไล่พระพ้นวัด เผยกระทำตัวไม่เหมาะสม ตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ แถมปล่อยเงินกู้และทำไสยศาสตร์ นอกจากนี้ยังเอาควายจากการบริจาคเข้าวัดมาเป็นของตัวเอง เจ้าคณะอำเภอทำหนังสือเชิญออกจากวัด เพราะอยู่ก็สร้างความแตกแยกในหมู่คณะสงฆ์และศรัทธาชาวบ้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่วัดสันหลวง เลขที่ 36 หมู่ 4 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พระครูวชิรสารคุณ เจ้าคณะอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ตัดสินใจลงนามหนังสือฝ่ายปกครองของสงฆ์ เพื่อเชิญพระอธิการเกษม สญฺญโต อายุ 52 ปี พระลูกวัดของวัดสันหลวง ให้ออกจากวัดภายในวันที่ 26-30 พ.ย. นี้ โดยให้สาเหตุว่ากระทำตัวไม่เหมาะสม สร้างความแตกแยกในหมู่คณะสงฆ์และศรัทธาชาวบ้านบ้านสันหลวง หมู่ 4 ต.สันนาเม็ง กระทำความผิดที่ไม่เหมาะสมถึง 2 ครั้งแล้ว โดยทางเจ้าคณะอำเภอเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องประชุมและสอบปากคำพยานแต่ละปากจนครบ รวมทั้งพระอธิการเกษม เพื่อให้ชี้แจงถึงเรื่องที่ได้กระทำจนมีเรื่องกับชาวบ้าน ก่อนหน้านี้แล้วถึง 2 ครั้ง กระทั่งมีคำสั่งเป็นหนังสือให้พระอธิการเกษมพ้นจากวัด

"ทำตัวไม่เหมาะสม มีผู้หญิงมาหาตอนกลางคืน ปิดไฟอยู่สองต่อสอง"


นายสวัสดิ์ ถวาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านสันหลวง ต.สันนาเม็ง เปิดเผยว่า เมื่อก่อนพระอธิการเกษมเป็นเจ้าคณะตำบลสันนาเม็ง ต่อมาประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับสมณเพศผิดพระวินัยจนถูกปลด มาเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดสันหลวงแห่งนี้ เมื่อปี 2543 โดยครั้งนั้นทางเจ้าคณะอำเภอได้ให้พระอธิการเกษม ทำบันทึกคาดโทษไว้ ไม่ให้กระทำผิดซ้ำสอง ซึ่งพระอธิการเกษม ก็ได้ลงลายมือชื่อไว้ เมื่อพระอธิการเกษมมาอยู่ที่วัดสันหลวง ก็ยังคงประพฤติตัวไม่เหมาะสมอยู่ดี มีการตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ ปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านและคิดดอกเบี้ยสูง และชอบประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ต่างๆ ที่พระสงฆ์ไม่ควรกระทำ และมักจะมีหญิงสาวมาให้พระอธิการเกษมทำพิธีให้ที่วัด

นายสวัสดิ์กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. มีหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี ขับรถยนต์มาหาพระอธิการเกษมในวัดในช่วงกลางคืน และอยู่ด้วยกันสองต่อสองปิดไฟ ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านจึงตรวจสอบก็พบว่าพระอธิการเกษมอยู่กับผู้หญิงจริงในวัด จึงนำชาวบ้านมาล้อมและช่วยกันจับกุม แต่พระอธิการเกษมปฏิเสธ โดยอ้างว่าตัวเองสั่งซื้อกล้วยหอม จากหญิงดังกล่าวให้มาส่งที่วัดราคา 500 บาท แต่ตนเห็นพิรุธว่าไม่ใช่และพระอธิการเกษมก็พยายามที่จะทำลายหลักฐานต่างๆ และได้ให้ผู้หญิงดังกล่าวออกจากวัดไปโดยด่วน ตนพยายามห้ามและให้อยู่เพื่อสอบถามให้รู้ความจริง เพราะพระอยู่กับผู้หญิงในตอนกลางคืนทำไมต้องปิดไฟและอยู่กันนาน จึงเกิดการโต้เถียงและยื้อแย่งกัน

"ชาวบ้านที่ศรัทธาชุมนุมกดดันเจ้าคณะอำเภอให้ถอดคำสั่งออก"


นายสวัสดิ์กล่าวอีกว่า ต่อมาตนทำเรื่องรายงานไปยังเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ กระทั่งมีการประชุมสอบสวนข้อเท็จจริงกัน พระอธิการเกษม ต่อสู้และกล่าวอ้างว่าไม่มีอะไรกับสีกา และยังมากล่าวหาว่าตนต้องการหาเรื่องพระ เพราะไม่พอใจเรื่องส่วนตัว โดยตนมีพยานเห็นเหตุการณ์ในวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งเป็นชาวบ้าน นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่พระอธิการเกษม กระทำตัวไม่เหมาะสมทั้งตั้งวงแชร์ ปล่อยเงินกู้ หลอกชาวบ้านเรื่องการบริจาควัวควาย กระทั่งมีการยึดกระบือที่ชาวบ้านบริจาคไถ่ชีวิตมาเป็นของตนเองและเลี้ยงไว้จนถึงวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดซ้ำสอง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าคณะอำเภอลงชื่อมีคำสั่งให้พระอธิการเกษมพ้นจากวัดสันหลวงให้ไปอยู่ที่อื่น โดยในหนังสือระบุมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 30 พ.ย. ซึ่งหนังสือให้พระอธิการเกษมพ้นจากวัดสันหลวงก็ออกมาแล้วส่วนพระอธิการเกษมจะไปหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ แต่คำสั่งเจ้าคณะอำเภอออกมาแล้ว คำสั่งก็คือคำสั่งพระสงฆ์ในความปกครองต้องปฏิบัติตาม

วันเดียวกัน มีชาวบ้านจากหมู่ที่ 8 ที่ศรัทธาในตัวพระอธิการเกษมมารวมตัวกันที่วัด 20 คน เพื่อกดดันให้เจ้าคณะอำเภอถอดคำสั่งดังกล่าว และให้พระอธิการเกษมอยู่ที่วัดแห่งนี้ต่อไป แต่เจ้าคณะตำบลอ่านประกาศของเจ้าคณะอำเภอให้กับพระอธิการเกษม เรื่องให้ย้ายออกจากวัดนี้ไปภายในวันที่ 30 พ.ย. อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ศรัทธาพระอธิการเกษมจะไปขอร้องให้เจ้าคณะอำเภอถอดคำสั่งอีกครั้งต่อไป ก่อนจะสลายตัวไปในที่สุด ส่วนพระอธิการเกษมเก็บตัวเงียบอยู่ในกุฏิวัด โดยทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ส่งกำลังชุดอาสาชาวบ้านเฝ้าสังเกตไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อกันการขนสิ่งของของวัดหาย เนื่องจากวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสิงห์ หน้าตักกว้าง 12 นิ้วเป็นพระพุทธรูปที่หายากประดิษฐานอยู่ในวัด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์