ฮ.บินปิดล้อมล่าโจรอ้างเป็นตร.ปล้นทรัพย์เหยื่อ

โปลิศอยุธยา กว่า 100 นาย ระดมปิดล้อมทุ่งนา จับโจรกรุงเก่าแสบ

ปลอมเป็น ตร.ออกตระเวนปล้นทรัพย์ชาวบ้าน ไล่ล่าระทึกจากดึกจนถึงเช้า รวบวายร้ายได้ 1 อีก 2 ยังหลบซ่อนกลางทุ่งนา จนท.ต้องขอ เฮลิคอปเตอร์ สตช. บินวนกดดัน แต่คว้าน้ำเหลว วายร้ายสารภาพใช้ปิกอัพวีโก ซิ่งประกบเหยื่อ ใช้ไฟฉายส่อง สั่งหยุดรถก่อนแสดงตัวเป็นตำรวจ แล้วลงมือก่อเหตุ ผู้การฯ เผย1 ในแก๊งวายร้าย เป็นเครือข่ายโจรกรรมรถรายใหญ่ ย่านปทุม มีพฤติกรรมโหดถ้าขัดขืนจะใช้ลูกเปตองทุบทำร้ายเหยื่อ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ดาวสุข สวส. สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ บนถนนสายจอมพล ป.พิบูลสงคราม หมู่ 1 ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน ในขณะที่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีออกไปตามถนนสายเอเซีย มุ่งหน้าเข้า จ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อม พ.ต.อ.ยศไกร วงศ์ดาวไทย ผกก. พ.ต.ต.สมนึก ศรีดารักษ์ สวป. และชุดสืบสวน รีบไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุซึ่งสองข้างทางเป็นทุ่งนา

ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ นายวิเชษฐ์ บุชยวงศ์ อายุ 23 ปี

บ้านอยู่ 36 หมู่ 3 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา ผู้เสียหาย ยืนตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ให้การว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุตนได้ขี่รถจยย.กลับจาก ทำงานในโรงงาน แล้วมุ่งหน้าที่จะกลับบ้านพัก ระหว่างทางได้มีรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สี บรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 3193 กรุงเทพมหานคร ขับตามหลังมา ก่อนจะแซงขึ้นไปปาดหน้ารถตน จากนั้น ชายฉกรรจ์ในรถ 3 คนได้ลงมาจากรถ ทั้งหมดแต่งกายคล้ายกับตำรวจนอกเครื่องแบบ มีเสื้อคลุมสีดำ หนึ่งในคนร้ายบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอทำการตรวจค้น ปรากฏว่าขณะทำทีตรวจค้นคนร้ายได้ชักมีดขึ้นมาแล้วจี้เอาเงินสด 900 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมเอากุญแจรถจยย.ของตนหลบหนีไปทันที


ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้วิทยุประสานไปยังท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยตั้งด่านสกัดจับกลุ่มคนร้าย

จนกระทั่งพบรถของคนร้ายวิ่งมาบริเวณแยกสะพาน ถนนสาย 356 ตัดสาย 347 มุ่งหน้าไปทาง ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน เจ้าหน้าที่จึงไล่กวดติดตาม ปรากฏว่าคนร้ายจวนตัว เมื่อเห็นว่าข้างหน้ามีด่านของ สภ.บางปะอิน สกัดอยู่ จึงได้เลี้ยวรถไปจอดที่หน้าสถานีรถไฟบ้านโพ อ.บาง ปะอิน แล้วพากันวิ่งหลบหนีลงไปในทุ่งนา เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่กวดติดตามอย่างกระชั้นชิดพบสร้อยคอทองคำ โทรศัพท์ของผู้เสียหายตกอยู่ระหว่างทางจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ. จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมายังจุดที่คนร้ายหลบหนี

แล้วสั่งการให้ระดมกำลังชุดสืบสวนภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา สภ.ใกล้เคียงกว่า 100 นาย รวมถึงหน่วย อปพร. ปิดล้อมบริเวณทุ่งนาดังกล่าว จนเมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรชัย ดาวสุข อายุ 32 ปี ส่วนคนร้ายที่เหลืออีกสองคนยังหลบหนีอยู่ในทุ่งนาขนาดใหญ่มีพื้นที่หลายพันไร่และมีน้ำท่วมขังอยู่ พล.ต.ต.นเรศ จึงได้ประสานขอเฮลิคอป เตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นบินกดดันคนร้ายเป็นเวลานานกว่า 2 ชม. แต่ไม่มีวี่แววคนร้าย

จากการสอบสวนนายสุรชัย ให้การว่า ตนพร้อมนายสมควร มณีพราว อายุ 32 ปี และนายสำรวย คุ้มเขต อายุ 30 ปี จะแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ

โดยสวมเสื้อ แจ๊กเกต ใช้รถปิกอัพของนายสมควรร่วมกัน ออกตระเวนก่อเหตุขับรถปาดหน้าเหยื่อที่ขับรถยนต์ หรือรถจยย.ในเส้นทางเปลี่ยวแล้วใช้ไฟฉายส่องเรียกให้จอดรถ จากนั้นจะอ้างตัวเป็นตำรวจขอตรวจค้นภายในรถก่อนจะปล้นเอาทรัพย์สิน หากเหยื่อขัดขืนจะร่วมกันทำร้าย โดยก่อเหตุมาแล้วเกือบ 10 ราย ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ต.นเรศ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของตำรวจภูธรภาค 1 พบว่าแก๊งดังกล่าวนอกจากจะชอบแต่งกายคล้ายตำรวจสายสืบหรือนอกเครื่องแบบ

เพื่อเรียกเหยื่อพร้อมขอตรวจค้นจากนั้นขู่บังคับปล้นทรัพย์สินไป อีกทั้งยังชอบอ้างตัวเป็นสื่อมวลชน ขณะเดียวกันยังพบว่า นาย สุรชัย เป็นเครือข่ายขบวนการแก๊งลักรถยนต์และรถจยย.รายใหญ่ ในพื้นที่คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายรายนี้ จะโหดเหี้ยมถ้าปล้นทรัพย์เหยื่อแล้วขัดขืนจะใช้ลูกเปตองทุบทำร้ายผู้เสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย และขอแจ้งให้เหยื่อรายใดที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะนี้ ไปดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.บางปะอิน ได้ตลอดเวลา.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์