อ๊อฟซ่านอนคุกคืนแรกเครียดจัดผู้คุมหวั่นคิดสั้น

คมชัดลึก :ตำรวจตั้งทีมไล่ล่า "พี-เค" สองผู้ต้องแก๊ง "อ๊อฟซ่า" ที่ยังหลบหนี พร้อมนำทรัพย์สินของจริงให้เหยื่อตรวจสอบแล้ว เผยจัดการระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าร้านอัญมณี ขณะที่ผู้เสียหายทยอยดูทรัพย์แล้วกว่า 300 ราย ขณะที่ "อ๊อฟซ่า" นอนคุกคืนแรกเครียดจัด กินข้าวไม่ลง ผู้คุมหวั่นกลัวคิดสั้นให้เพื่อนผู้ต้องขังช่วยดูแลแทน เตรียมวางมาตรการเข้มกลัวถ่ายทอดวิธีโจรกรรมให้เพื่อร่วมคุก


 ความคืบหน้าคดีแก๊งนายหทัย ไชยวัณณ์ หรือ ออฟซ่า อายุ 37 ปี อดีตนักแข่งรถชื่อดังเข้าโจรกรรมทรัพย์สินตามหมู่บ้านต่าง ๆ ได้ทรัพย์สินรวมหลายร้อยล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เมื่อเวลา 15.20 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายและของกลางที่เหลือกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว

จากนั้นได้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยการจัดเก็บและรักษาของกลางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง โดยเจ้าหน้าที่นำของกลางบางส่วน อาทิ สร้อยเพชร แหวนเพชร แหวนทอง นาฬิกา และพระเครื่อง ใส่ตู้กระจกใส 2 ชั้น ปิดล็อกอย่างแน่นหนาตั้งไว้ในห้องประชุมชั้น 2 ซึ่งใช้เป็นห้องสอบสวนคลี่คลายคดีให้ผู้เสียหายตรวจสอบพร้อมติดป้ายห้ามถ่ายภาพของกลางป้องกันพวกมิจฉาชีพใช้แอบอ้างเป็นเจ้าของในภายหลัง ขณะเดียวกันได้นำภาพถ่ายของกลางอีกส่วนหนึ่งติดบอร์ดไว้ให้ตรวจสอบ โดยตลอดทั้งวันมีผู้เสียหายทยอยนำหลักฐานเดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินกันอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ราย

 ผบช.น. กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยเน้นย้ำการติดตามตัวคนร้ายร่วมขบวนการที่เหลือและการติดตามทรัพย์สินของกลางที่สูญหายกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอหมายศาลเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยต่างๆ ตามคำให้การของผู้ต้องหา คาดว่าวันที่ 9 มี.ค. จะดำเนินการได้ในหลายจุดด้วยกัน เพราะแต่ละวันจะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งทรัพย์สินสูญหายและขอตรวจสอบของกลางเป็นจำนวนกว่า 300 ราย แต่มีเพียง 64 ราย ที่มีหลักฐานยืนยันแสดงว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเอง ขณะเดียวกันยังแจ้งทรัพย์สินสูญหายนอกเหนือจากที่นำมาโชว์ อาทิ พระสมเด็จ เบญจภาคี มูลค่าหลักล้านบาท และทองคำแท่งหนัก 1 กิโลกรัม จำนวน 20 แท่งด้วย เชื่อว่ายังมีการซุกซ่อนอยู่ อย่างไรก็ตาม ได้ให้นโยบายการปฏิบัติของหน้าที่ตำรวจในส่วนของการขอคืนของกลางว่า ทุกอย่างจะต้องมีขั้นตอนละเอียดรอบคอบ มีระเบียบชัดเจนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพเข้าอ้างสิทธิ์ ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในโรงรับจำนำนั้น สั่งการให้พนักงานสอบสวนอายัดไว้แล้วและแจ้งเจ้าทุกข์ทราบว่าต้องเป็นผู้ไปไถ่ทรัพย์สินคืนเอง ทุกคนก็ยอมรับในส่วนนี้ไม่มีปัญหาอะไร

 ด้าน พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.น.4 กล่าวถึงความคืบหน้าในการรล่าตัวผู้ต้องหาที่เหลือ คือ นายพีและนายเค ว่า ตำรวจจัดกำลังชุดสืบสวน 2 ชุด จำนวน 15 นาย ออกติดตามไล่ล่า โดยกำชับให้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว และจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองเคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.พระโขนง ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลเพื่อสืบหาความเชื่อมโยง และแหล่งกบดานที่เชื่อว่าคนร้ายจะหนีไปซ่อนตัว "ตอนนี้เจ้าหน้าที่เร่งทำงานเพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาโดยเร็วที่สุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่พอสมควร แต่รายละเอียดบางอย่างคงไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้คนร้ายไหวตัวได้

 ขณะที่ พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า วันนี้ตำรวจจะเปิดให้ผู้เสียหายได้ตรวจสอบทรัพย์สินของจริง โดยจะจัดระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าร้านอัญมณี เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าตรวจสอบทรัพย์สินจากภาพเท่านั้น อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าตรวจสอบทรัพย์สินแล้วกว่า 200 ราย และมีจำนวนกว่า 10 ราย ยืนยันว่า ทรัพย์สินของกลางที่ตรวจยึดมาได้น่าจะใช่ทรัพย์สินของตนเอง

 วันเดียวกัน นายชินกร ไกรลาศ ศิลปินแห่งชาติ 2542 ราชาเพลงแหล่ ในฐานะผู้ตรวจสอบจาก คณะกรรมการติดตามการทำงานข้าราชการตำรวจ สน.บางขุนนนท์ รุดเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊ง "อ๊อฟซ่า" โจรกรรมทรัพย์สินทำให้ประชาชนต้องเสียหายเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

 นายชินกร กล่าวว่า ประทับใจในการทำงานของตำรวจในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไม่ดี มีญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงถูกขโมยขึ้นบ้านลักทรัพย์เสียหายหลายล้าน ในฐานะที่ทำงานให้คณะกรรมการติดตามการทำงานข้าราชการตำรวจบางขุนนนท์ จึงอยากเข้าดูการปฏิบัติงานของ สน.วังทองหลาง และเมื่อดูการทำงานของตำรวจวันนี้ รู้สึกประทับใจว่าทำงานรวดเร็ว ทำให้ประชาชนอุ่นใจ

 แหล่งข่าวจากเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภายหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายหทัย หรือ หมูสกปรก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งเข้าควบคุมตัวในแดนแรกรับ เรือนจําพิเศษกรุงเทพ โดยเรือนจําได้จัดทําประวัติผู้ต้องหาใหม่ และแจกคู่มือติดคุกให้นายหทัยและเพื่อนร่วมแก๊งนำไปศึกษาวิธีการปฏิบัติตนตามระเบียบเรือนจำ ทั้งนี้ภายหลังการคุมขังในแดนแรกรับประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทางเรือนจําจะจําแนกผู้ต้องหาใหม่ไปอยู่ตามแดนต่างๆ ตามความหนักเบาของคดี
 ส่วนเรื่องการฝึกวิชาชีพนั้นเรือนจําจะไม่บังคับให้ทำงาน เนื่องจากนักโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี การทำงานในเรือนจำจึงต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องขังเอง โดยทางเรือนจําจะมีแผนกวิชาชีพไว้รองรับ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ฝึก อาทิ ช่างยนต์ ช่างไม้ รวมทั้งงานศิลปะต่างๆ โดยเรือนจําอาจจะให้นายหทัยไปช่วยเป็นครูสอนซ่อมเครื่องยนต์ แต่ก็ต้องรอดูความสมัครใจของผู้ต้องหาก่อน รวมทั้งจะต้องวางมาตรการป้องกันไม่ให้มีการถ่ายทอดวิธีการโจรกรรมให้แก่เพื่อนผู้ต้องขัง  รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า หลังจากนายหทัยถูกคุมขังอยู่ภายในแดนแรกรับเป็นคืนแรก พบว่านายหทัยมีสีหน้าที่เคร่งเครียด คิ้วขมวดตลอดเวลา พูดจาโผงผาง แต่ไม่ยอมพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ ที่อยู่ร่วมแดนเดียวกัน และยังรับประทานอาหารที่ทางเรือนจําจัดให้น้อยมาก และตลอดทั้งวันนายหทัยยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิม ไม่ยอมสวมใส่ชุดผู้ต้องขังที่ทางเรือนจําจัดให้ สำหรับอาหารที่เรือนจําจัดเตรียมไว้ให้ผู้ต้องขังในแดนแรกรับ เป็นข้าวสวย ต้มจืด และขนมหวาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเรือนจําก็ได้สั่งให้ผู้ต้องขังที่อยู่แดนเดียวกับแก๊งหมูสกปรก ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่อยู่ในความเครียด คิดสั้นฆ่าตัวตายภายในเรือนจํา โดยในวันที่ 9 มีนาคม เรือนจําจะเปิดให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาได้ ตั้งแต่เวลา 08.30-14.30 น.เป็นต้นไป

แหล่งข่าวจากเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภายหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายหทัย หรือ อ๊อฟซ่า  เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งเข้าควบคุมตัวในแดนแรกรับ เรือนจําพิเศษกรุงเทพ โดยเรือนจําได้จัดทําประวัติผู้ต้องหาใหม่ และแจกคู่มือติดคุกให้นายหทัยและเพื่อนร่วมแก๊งนำไปศึกษาวิธีการปฏิบัติตนตามระเบียบเรือนจำ ทั้งนี้ภายหลังการคุมขังในแดนแรกรับประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทางเรือนจําจะจําแนกผู้ต้องหาใหม่ไปอยู่ตามแดนต่างๆ ตามความหนักเบาของคดี
 ส่วนเรื่องการฝึกวิชาชีพนั้นเรือนจําจะไม่บังคับให้ทำงาน เนื่องจากนักโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี การทำงานในเรือนจำจึงต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องขังเอง โดยทางเรือนจําจะมีแผนกวิชาชีพไว้รองรับ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ฝึก อาทิ ช่างยนต์ ช่างไม้ รวมทั้งงานศิลปะต่างๆ โดยเรือนจําอาจจะให้นายหทัยไปช่วยเป็นครูสอนซ่อมเครื่องยนต์ แต่ก็ต้องรอดูความสมัครใจของผู้ต้องหาก่อน รวมทั้งจะต้องวางมาตรการป้องกันไม่ให้มีการถ่ายทอดวิธีการโจรกรรมให้แก่เพื่อนผู้ต้องขัง

 รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า หลังจากนายหทัยถูกคุมขังอยู่ภายในแดนแรกรับเป็นคืนแรก พบว่านายหทัยมีสีหน้าที่เคร่งเครียด คิ้วขมวดตลอดเวลา พูดจาโผงผาง แต่ไม่ยอมพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ ที่อยู่ร่วมแดนเดียวกัน และยังรับประทานอาหารที่ทางเรือนจําจัดให้น้อยมาก และตลอดทั้งวันนายหทัยยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิม ไม่ยอมสวมใส่ชุดผู้ต้องขังที่ทางเรือนจําจัดให้ สำหรับอาหารที่เรือนจําจัดเตรียมไว้ให้ผู้ต้องขังในแดนแรกรับ เป็นข้าวสวย ต้มจืด และขนมหวาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเรือนจําก็ได้สั่งให้ผู้ต้องขังที่อยู่แดนเดียวกับแก๊งหมูสกปรก ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่อยู่ในความเครียด คิดสั้นฆ่าตัวตายภายในเรือนจํา โดยในวันที่ 9 มีนาคม เรือนจําจะเปิดให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาได้ ตั้งแต่เวลา 08.30-14.30 น.เป็นต้นไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์