อาญาเถื่อน! บุกซัลโวดับสาวใหญ่จอมร้องเรียน

เหยื่อศัลยกรรมหน้าพังฟ้องคลินิกเป็นข่าวฉาว 2 มือปืนดักยิงหน้าบ้าน

อาญาเถื่อนเมืองกรุง มือปืนโหดบุกยิง “ระวีวรรณ เสตะรัตน์”


สาวใหญ่ที่ตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อ 2 ปีก่อน ตายอนาถขณะกำลังจะกลับบ้านพักย่านแฮปปี้แลนด์ เผย ผู้ตายเคยออกรายการทีวี แฉเบื้องหลังที่ต้องเสียโฉมจากคลินิกศัลยกรรมย่านดอนเมือง ก่อนบุกร้องเรียนเอาผิดแพทย์ผู้รักษา แทบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักข่าว-สคบ.-รัฐบาล จนถูกแพทย์เจ้าของคลินิกฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่าร้อยล้าน ส่วนเจ้าตัวก็ฟ้องเอาผิดหมอศัลยกรรมเช่นกัน เรื่องยังคาอยู่ในชั้นศาล แต่มาถูกยิงตายเสียก่อน จนท.ตั้ง 2 ปมมรณะขัดแย้งคดีเก่า กับปัญหาธุรกิจก่อสร้าง 
 
เมื่อเวลา 21.30 น.

พ.ต.อ.สมศักดิ์  บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานมูลนิธิป่อเต็ก ตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์มีรั้วรอบขอบชิด

เนื้อที่ประมาณ 16 ตารางวา ตรงหน้าประตูไม้ที่จะเข้าไปในตัวบ้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ และปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดตกอยู่ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งรพ.เวชธานี

ทราบชื่อนางระวีวรรณ เสตะรัตน์ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน และนักธุรกิจก่อสร้าง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะ ราวนมซ้าย-ขวา และหัวไหล่ขวาทะลุหลัง รวม 4 นัด

สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถเก๋งมาจอดริมรั้วหน้าบ้าน แล้วเปิดประตูรั้วหน้าเข้าไป ขณะกำลังจะไขประตูไม้เข้าบ้าน ถูกมือปืนลงจากรถจยย.ไปกระหน่ำยิงไม่ยั้ง 4 นัดซ้อน ก่อนขับรถหนีไปในความมืด ท่ามกลางสายตาและความตื่นตระหนกของชาวบ้าน 
 
อย่างไรก็ตาม

ก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 20.00 น. มีชายแปลกหน้า 2 คน ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิง ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน มาจอดห่างบ้านผู้ตาย 50 เมตร โดยนั่งกระดกเบียร์ประมาณ 3 ขวด แต่หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป จึงน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นมือปืน เบื้องต้น พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นการสังหารไว้เรื่องคดีเก่าที่ฟ้องร้องกับคลินิกแห่งหนึ่ง และประเด็นขัดแย้งธุรกิจส่วนตัว เพราะผู้ตายทำธุรกิจก่อสร้างอยู่ที่ จ.ราชบุรี วันนี้เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพฯ และปกติก็ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ มีแต่ลูก ๆ เท่านั้นที่จะพัก  
 
สำหรับนางระวีวรรณ เสตะรัตน์ ผู้ตาย ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา เคยตกเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ

เมื่อเจ้าตัวออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนทั้งทางโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ว่า ตนเองตกเป็นเหยื่อคลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง จนทำให้ใบหน้าเสียโฉม เนื่องจากในปี 2546 นางระวีวรรณได้ติดต่อขอรับการทำศัลยกรรมใบหน้าจากคลินิกดังกล่าวหลายอย่าง ทั้ง ผ่าตัดทำตาสองชั้น ดูดไขมันใต้ตา เสริมจมูก แต่กลับถูก เจ้าของคลินิก และเป็นแพทย์ผู้ทำศัลยกรรม ฉีดสารเคมีบางชนิดด้วยวิธี "ไบโอเทคนิค" เข้าไปในใบหน้า แต่สารดังกล่าวเกิดการแข็งตัวไม่เป็นไปตามประสงค์ ต้องผ่าตัดแก้ไขอยู่กว่า 20 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 2 ปี ทำให้ใบหน้าของนางระวีวรรณเสียโฉม ผิวตาไม่เรียบ เปลือกตาซ้ายปิดไม่สนิท มีแสงลอดเข้าไปได้ น้ำตาเยิ้มคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา โดยนางระวีวรรณ ได้นำเรื่องนี้ร้องเรียนหลายหน่วยงาน ทั้งแพทยสภา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จนถึงขั้นบุกไปร้องเรียน พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย 
 
ต่อมานางระวีวรรณ ได้ถูกแพทย์คนดังกล่าวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท

จากกรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่สุดท้ายศาลยกฟ้อง ขณะเดียวกัน นางระวีวรรณ ก็เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแพทย์คนดังกล่าวเป็นจำเลย เรื่องละเมิดด้วยเช่นกัน จากการประมาทที่รักษาใบหน้าจนเสียโฉม เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 12.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง โดยนัดสืบพยานครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2550 ที่ผ่านมา.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์