อัยการปัดร่วมสอบคดี สนธิ หมิ่นเบื้องสูง เตือนอย่าบิดเบือน

อัยการปัดร่วมสอบคดี สนธิ หมิ่นเบื้องสูง เตือนอย่าบิดเบือน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 14:23 น.

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ปัดข้อเสนอชุดสอบสวนคดี สนธิ หมิ่นเบื้องสูง ร่วมคณะสอบ ยันไม่มีอำนาจเพราะไม่ใช่คดีพิเศษ เตือน ตร.อย่าบิดเบือน เพราะไม่ได้ผูกมัดอัยการ และอาจมีความเห็นแย้งได้

ความคืบหน้ากรณีที่พนักงานสอบสวน โดย พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุดกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะออกหมายเรียก นายสนธิ ลิ้มทองกุล เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตำรวจได้ประสานยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้อัยการร่วมเป็นที่ปรึกษาในคดีด้วยนั้น

วันนี้ (4 เม.ย.) นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาในคดีนี้ เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ชลอ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน ได้นำหนังสือมายื่นถึงอัยการสูงสุด และมาขอคำปรึกษาแล้ว โดยตนได้แนะนำว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่สื่อมวลชน และสังคมให้ความสนใจ และเป็นคดีใหญ่ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้น ขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงให้เป็นธรรมทุกฝ่าย โปร่งใสและตรวจสอบได้ และอธิบายต่อประชาชนได้ พยานหลักฐานทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายใด ขอให้รวบรวมมาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหา และพยานหลักฐานต้องได้มาชอบด้วยกระบวนการของกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยเฉพาะที่แก้ไขใหม่ และให้รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ เพื่อจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมและความเสมอภาคกับทุกฝ่าย

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า คดีนี้เป็นคดีปกติ ที่ต่างกับคดีพิเศษ ซึ่งคดีพิเศษนั้นอัยการมีอำนาจตามกฎหมายในการร่วมสอบปากคำ และสอบสวนผู้ต้องหาด้วย ส่วนคดีนี้อัยการไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน หรือพิจารณาสำนวน เพียงแต่ให้คำปรึกษาในแง่ข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนตำรวจจะออกหมายเรียก หรือจะตั้งข้อหาอะไรบ้างนั้น เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนไม่เกี่ยวกับตน

ผมเน้นเรื่องความเป็นธรรมและโปร่งใส ผมทำคดีใหญ่ๆ มาเยอะ ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในขั้นตอนที่ตำรวจทำงาน เพราะเราไม่มีอำนาจ โดยผมให้คำแนะนำในหลักการก่อน คือ ให้ดำเนินคดีให้ถูกต้องเป็นธรรม เสมอภาคทุกฝ่าย และรวบรวมข้อเท็จจริงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านผู้เสียหาย ด้านผู้ต้องหา อย่าบิดเบือน ตำรวจชุดนี้มีหลายคนที่น่าเชื่อถือ ผมเชื่อว่าคดีอย่างนี้คงจะทำให้รอบคอบและเป็นธรรม ส่วนที่ว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนจะเป็นรุ่นเดียวกับนายกฯ หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง เพียงแต่ทราบจากข่าวเท่านั้น นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าตนจะให้คำปรึกษาในคดีนี้ ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ แต่หากพนักงานสอบสวนเสนอความเห็นพร้อมสำนวนฟ้องผู้ต้องหามายังอัยการ ก็ไม่ได้หมายความว่า อัยการจะต้องมีความเห็นพ้อง เพราะความเห็นของตำรวจไม่ได้ผูกมัดอัยการ อัยการอาจมีความเห็นแย้งหรือต่างก็ได้ ขึ้นกับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนว่าครบถ้วนสมบูรณ์ เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้หรือไม่ โดยเมื่อถึงขั้นตอนนั้น อัยการก็จะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาวินิจฉัยอีกครั้ง

ปลอดประสพ ร่วมเชลียร์แม้ว ! โผล่แจ้งจับ สนธิ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 13:53 น.

ปลอดประสพ เพิ่งคิดได้ พาลูกน้องเดินทางแจ้งจับ สนธิ อ้างให้สัมภาษณ์หมิ่นเบื้องสูง พร้อมพูดเชิงประชด บอก สนธิ อย่าโกรธเลย อ้างขอทำหน้าที่ ส่วนจะผิดหรือถูกขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำข้าราชการในสังกัดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด โดย พ.ต.อ.วิวัฒน์ชัย ถนัดหนังสือ รองเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่อง

นายปลอดประสพ กล่าวว่า การร้องทุกข์ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายสนธิ ให้ข่าวสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เพราะเมื่อพิจารณาข้อความที่ นายสนธิ ให้สัมภาษณ์เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตนในฐานะประชาชน จึงมาทำหน้าที่ปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติ โดยเชื่อว่า ศาลเท่านั้นที่จะหยุดยั้ง นายสนธิ ได้ และจะเป็นบรรทัดฐานในอนาคต

พร้อมกันนี้ ได้มอบหลักฐานเทปบันทึกเสียงพร้อมซีดีคำให้สัมภาษณ์เพื่อเป็นหลักฐานทางคดี ส่วนจะมีการแก้ไขตัดต่อข้อความตามที่ นายสนธิ กล่าวอ้างหรือไม่นั้น จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

นายปลอดประสพ ยังฝากถึง นายสนธิ ว่า อย่าได้โกรธ ตนขอทำหน้าที่ และให้นายสนธิ ทำหน้าที่ของนายสนธิ ไป โดยศาลจะเป็นผู้ตัดสิน การถูก นายสนธิ พาดพิงด้วยถ้อยคำหยาบคายบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และล้อเลียนในมิวสิกวิดีโอจะไม่ถือโทษ เพราะเคยใช้ถ้อยคำไม่ดีพาดพิง นายสนธิ เช่นกัน แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่กุ๊ยตามที่ถูกกล่าวหา เพราะมีชาติตระกูลดี จึงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.วิรุฬห์ เอี่ยมไพจิตร หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวน ได้มาเชิญ นายปลอดประสพ เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ หน.พนักงานสอบสวนคดีดังกล่สว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ปากคำ

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายปลอดประสพ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจาก นายสนธิ เดินทางกลับจากเมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน ได้มีผู้สื่อข่าวถาม นายสนธิ ว่า นายปลอดประสพ บอกว่า หากเจอหน้านายสนธิ อยากจะชกหน้าแล้วก็ยอมเสียค่าปรับ 500 บาท โดย นายสนธิ ได้ตอบไปว่า ผมคิดไม่ถึงว่า นายปลอดประสพ ชาติตระกูลก็ดี ตำแหน่งเคยเป็นอธิบดีมาก่อน แล้วเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรี ยังถ่อยถึงขนาดนี้

พร้อมกับฝากถึง นายปลอดประสพ ว่า ควรจะใช้ความกล้าหาญในทางที่ถูกต้องดีกว่า อย่ามาลักษณะนิสัยใช้กำลัง เหมือนครั้งที่เคยไปออกรายการถึงลูกถึงคน แล้วลูกน้องนายปลอดประสพ ชกหน้าเอ็นจีโอ และเป็นคดีความเกิดขึ้น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์