ออกหมายโจรแสบทางด่วน

"สเก็ตภาพคนร้ายออกหมายจับ"


นำภาพตร.ทางหลวงมาให้วิศวกรสาวเหยื่อโจรบนทางด่วนดู หลังคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนทุบกระจกรถขโมยเงินสดและมือถือ แต่ไม่พบว่าใครเป็นคนร้าย ตร.นำภาพสเกตช์ไปออกหมายจับพร้อมหาเบาะแสจากมือถือ 3 เครื่องที่คนร้ายได้ไป ด้านผอ.ประชาสัมพันธ์ทางด่วนออกแถลงแสดงความเสียใจ ยันมีระบบช่วยเหลือและรักษาความปลอดภัยทั้งโทรศัพท์ฉุกเฉินและกล้องวงจรปิด แต่อยากให้ผู้ใช้ท่างด่วนดูแลรถยนต์ให้มีสภาพดีด้วย

จากเหตุการณ์ภัยคนขับรถบนทางด่วน น.ส.จิรัญญา วันทองสังข์ วิศวกรสาวรถน้ำมันหมดบนทางด่วนบริเวณแยกศรีนครินทร์ ระหว่านั้นมีคนร้ายรูปร่างท้วม ตัดผมรองทรง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายสกอต ขับรถมาจอดประกบอ้างตัวเป็นตำรวจ ทำทีเข้ามาช่วยเหลือและชวนเดินลงไปด้านล่างเพื่อซื้อน้ำมันมาเติม ระหว่างทางก็ลวนลามด้วยการจับไม่จับมือ ก่อนที่จะออกอุบายขอย้อนไปที่รถเพื่อขับมารับ แต่กลับทุบกระจกรถของเหยื่อล้วงเอาเงินสดและโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

"สเก็ตภาพตามคำบอกผู้เสียหาย ไม่ใช่ ตร.จริง"


ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 พ.ย. พ.ต.ท.สุนทร คงกล่ำ รองผกก.(สส.)สน.หัวหมาก กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว ได้นำภาพตำรวจทางหลวงที่อยู่บริเวณนั้นให้ดูแล้วไม่ปรากฏว่ามีหรือรูปร่างหน้าตาตามที่ผู้เสียหายจำได้ ดังนั้น ขณะนี้ที่ทำได้คือการขออนุมัติหมายจับคนร้ายตามภาพสเกตช์ต่อศาล ส่วนแนวทางการสืบสวนมอบหมายพ.ต.ท.สมภพ เล็กกลาง สว.สส.สน.หัวหมาก นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนเชิงลึกทั้งการติดตามหาทรัพย์สินของผู้เสียหาย คือโทรศัพท์มือถือที่ถูกคนร้ายเอาไป 3 เครื่อง

ด้านนางอัญชลี ฤกษนันทน์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์และการตลาด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)ชี้แจงว่า ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวผู้ใช้บริการทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์) ถูกมิจฉาชีพซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจอาสาเข้ามาช่วยเหลือและฉวยโอกาสชิงทรัพย์ก่อนที่จะหลบหนีไป ดังความละเอียดแจ้งแล้วนั้น การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)กระทรวงคมนาคม ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการทางพิเศษกรณีถูกชิงทรัพย์ ขณะจอดรถเพื่อจะโทรศัพท์ฉุกเฉินขอความช่วยเหลือเนื่องจากนํ้ามันเชื้อเพลิงหมด ซึ่งกทพ.ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วทราบว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นครบาลหัวหมากอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนแล้ว

"แนะให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทางทุกครั้ง"


อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว กทม.ได้จัดให้มีระบบตรวจสภาพการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการทางพิเศษอยู่ตลอดเวลา โดยได้จัดให้มีระบบการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กรณีผู้ใช้บริการทางพิเศษเกิดอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือ โดยติดตั้งโทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางพิเศษทุกระยะ 500-1,000 เมตร และผู้ใช้บริการทางพิเศษสามารถโทรศัพท์ไปที่ ETA-Call Center 1543 ตลอด 24 ช.ม.

โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจะตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และแจ้งเหตุไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ไปทำการช่วยเหลือภายในเวลาไม่เกิน 10 นาทีโดยไม่คิดค่าบริการ ยกเว้นค่าเติมนํ้ามันเชื้อเพลิงให้ ทั้งนี้ กทม.ขอแนะนำผู้ใช้บริการทางพิเศษทุกท่าน โปรดตรวจสอบสภาพรถยนต์ของท่านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในขณะขับขี่รถยนต์ด้วย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์