ออกหมาย2โจร ปล้นขนเงิน23ล.

ความคืบหน้ากรณี 3 คนร้ายปล้นรถขนเงินบริษัทแซมโก้ จำกัด

บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทคโนโลยีเจ้าคุณทหาร ภายในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เงินไปเกือบ 23 ล้านบาท ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.อ.คงกฤช บัวบาน ผกก.สน.จรเข้น้อย ได้เรียกตัวนายวินัย เพชวารี อายุ 48 ปี หัวหน้ารถขนเงินบริษัทแซมโก้ จำกัด คันที่เกิดเหตุ และนายมานพ มูลดี อายุ 26 ปี โชเฟอร์รถคันดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติม

นายมานพเปิดเผยว่า
 
ตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยให้ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น นอกจากนั้น ยังพิมพ์ลายนิ้วของตนและนายวินัยนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้ายบนรถขนเงินคัน ดังกล่าว ขอยืนยันว่าที่ถูกปล้นรถขนเงินครั้งนี้ คนร้ายทั้ง 3 คนมาดักรออยู่แล้ว เพราะตนจะคอยสังเกตตลอดทาง ว่ามีรถติดตามมาหรือไม่ แต่ไม่เห็นว่ามีรถตามมาแต่ อย่างใด ตอนเกิดเหตุ คนร้ายใช้ปืนขู่ให้นอนราบลงกับพื้น

เหตุที่เกิดขึ้นคาดว่า

คนร้ายน่าจะรู้วิธีการขนเงินของพนักงานบริษัทแซมโก้พอสมควร รู้ว่าช่วงเวลาดังกล่าว พนักงานต้องขนเงินออกจากรถ และใช้เวลานานหลายนาที คนร้ายน่าจะรู้ตรงจุดนี้ อีกอย่างบริษัทจะไม่ให้พนักงานพกปืน เพราะถ้าหากคนร้ายรู้ว่าพนักงานมีปืนอาจจะต้องยิงต่อสู้กัน ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขึ้นได้ ที่ผ่านมาผู้บริหารบริษัทเน้นย้ำว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ให้เอาชีวิตรอดไว้ก่อน เนื่องจากชีวิตของพนักงานสำคัญกว่า คิดว่าหลังจากเสร็จสิ้นคดีนี้แล้วจะไปหางานอื่นทำ

ต่อมาในช่วงบ่าย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น. 3 เดินทางไปสอบถามความคืบหน้าของคดีที่ สน.จรเข้น้อย โดย พล.ต.ต.อำนวยเปิดเผยว่า

จากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างชุดสืบสวน สน.จรเข้น้อย ศส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 เห็นว่าคนร้ายแก๊งนี้แต่ละคนอายุ 40 ปี ขึ้นไป จึงน่าจะเป็นพวกที่มีประสบการณ์ ก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน หรือเคยผ่าคุกผ่านตะรางมาแล้ว ทาง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. จึงให้ บก.ต่างๆในนครบาลตรวจสอบย้อนหลัง คนร้ายที่เคยก่อคดีในลักษณะนี้ ทั้งในพื้นที่ บช.น. รวมถึง บช.ภ.1 และ บช.ภ.2 รวม 17 คดี และยังให้รื้อคดีที่คนขับรถขนเงินทำถุงเงินหล่นมาตรวจสอบด้วย ในด้านการสอบสวน ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป ยังคงให้ความสำคัญกับทุกประเด็น ให้ตรวจดูภาพจากทีวีวงจรปิดเกี่ยวกับเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ว่ารถของคนร้ายขับผ่านไปทางไหนบ้าง

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวด้วยว่า

เหตุที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของบริษัทขนเงินที่ไม่ยอมประสานกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารที่นำเงินไปส่ง เพื่อจะช่วยกันรักษาความปลอดภัย เหตุประเภทนี้ ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงคือบริษัทประกันภัย การป้องกันเหตุประเภทนี้จำเป็นต้องมี พ.ร.บ. รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กำหนดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องมีประสบการณ์และมีคุณภาพ พนักงานรักษาความปลอดภัยของบางประเทศมีคุณภาพมากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐเสียด้วยซ้ำ ไม่ใช่ให้ทำงานกันเอง ไม่ประสานกับใคร ถ้าหากเกรงว่าข่าวจะรั่ว ทางบริษัทก็ควรจะประสานกับ ผจก.ธนาคารที่นำเงินไปส่ง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเพิ่มกำลังมาช่วยดูแล

ผบก.น. 3 กล่าวอีกว่า
 
ในส่วนของคนร้าย ขณะนี้ ศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 2 คน จากภาพสเกตช์คนร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนแรกเป็นชายคนขับรถ อายุประมาณ 40 ปี สูง ใบหน้ารูปไข่ ผิวดำแดง ไว้ผมรองทรงสั้น แก้มตอบ คิ้วหนา หน้าตาดุ ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ มีอาวุธปืนและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน อีกคนนั่งคู่กับคนขับด้านหน้าและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นชายอายุราว 40 ปี สูง 170 ซม. ผิวดำ ใบหน้าสามเหลี่ยม ผมหยิกฟู ถูกตั้งข้อหาเดียวกันกับคนแรก ประชาชนผู้ใดพบเห็นผู้ต้องสงสัยตามภาพสเกตช์ ให้แจ้งเบาะแสได้ที่ 191 หรือ สน.จรเข้น้อย ส่วนคนร้ายคนที่ 3 ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมแล้วจะขออนุมัติออกหมายจับต่อไป