อธิบดีกรมอุทยานฯจ่อตรวจดีเอ็นเอซากเสือหาที่มา

วันนี้ (7 ม.ค.) นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์จับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบขนซากเสือ โคร่งจำนวน 3 ตัว และเสือลายเมฆอีก 1 ตัวที่ถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ

โดยอ้างว่าจะส่งไปที่ตลาดไท ก่อนส่งออกไปยังประเทศจีนนั้น กรมอุทยานฯ ได้ประสานไปยังตำรวจทางหลวง เพื่อขอนำซากเสือของกลางทั้ง 4 ตัวมาทำการตรวจสอบพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) จากชิ้นเนื้อของเสือว่าเป็นเสือที่ถูกล่ามาจากป่า หรือเป็นเสือที่ได้จากการเพาะเลี้ยง เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีการเก็บรักษาหรือทำลายซากเสือของกลางไป ทำให้ไม่สามารถหาเบาะแสที่มาของเสือดังกล่าวได้
  

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า การจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ส่วนใหญ่จะวิธีการขนกันแบบกองทัพมด


อีกทั้งผู้ให้เบาะแสการค้าสัตว์ป่าก็หายากเช่นกัน โดยเฉพาะมูลค่าของเสือโคร่งหากส่งไปถึงเมืองจีนแล้วจะสูงถึงตัวละประมาณ 1 ล้านบาท เนื่องจากยังมีกลุ่มคนที่นิยมบริโภคเสือ รวมทั้งสัตว์ชนิดอื่นๆ อาทิ ตัวนิ่มหรือตัวลิ่น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นายอุภัย กล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้มีการหารือกันว่าจะเสนอให้รัฐบาลขอความร่วมมือเชิงนโยบายกับรัฐบาลจีน ให้ช่วยกวดขันการรับซื้อสัตว์ป่าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากไทยที่เป็นทางผ่าน ในการค้าสัตว์ป่าตามชายแดนเพื่อส่งต่อไปยังจีน  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในรอบปี 2551 ที่ผ่านมา มีคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่าจำนวน 183 คดี จำนวนผู้ต้องหา 180 คน


แบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีชีวิต 842 ตัว ซาก 159 ชิ้น นก มีชีวิต 2,282 ตัว ซาก 44 ชิ้น สัตว์เลื้อยคลาน 292 ตัว ซาก 6 ชิ้น สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก มีชีวิต 76 ตัว ปลามีชีวิต 10 ตัว ซาก 13 ชิ้น และแมลง 1 ตัว โดยลดลงจากปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มีจำนวนคดีสูงสุดคือ 269 คดี จำนวนผู้ต้องหา 273 คน แบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีชีวิต 646 ตัว ซาก 749 ชิ้น นกมีชีวิต 7,099 ตัว ซาก 258 ชิ้น สัตว์เลื้อยคลานมีชีวิต 577 ตัว ซาก 20 ชิ้น สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 1 ตัว เป็นต้น

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์