หวิดย่างสด!หกล้อเสยท้ายบรรทุกไวน์ไฟลุกท่วม

หวิดย่างสด!หกล้อเสยท้ายบรรทุกไวน์ไฟลุกท่วม

หวิดย่างสด! หกล้อเสยท้ายบรรทุกไวน์ไฟลุกท่วมคนขับหวิดถูกย่างสด


วันที่ 22 พ.ค.57 เมื่อเวลา 00.10 น. ร.ต.ท.พิชิต วรรณารักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งชนท้ายกันจนทำให้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บนตัวรถทั้งสองคัน และทำให้เส้นทางการสัญจรในบริเวณจุดเกิดเหตุติดขัด ประชาชนไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านไปได้ โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลัก กม.ที่ 17 บนถนนสาย 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) ช่องทางด้านฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ก่อนถึงปากทางสามแยกสัญญาณไฟจราจร แยกเข้าวัดนาคู ประมาณ 1 กม. พื้นที่ ม.7 ต.บางพระ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ แบบด้านท้ายตีตู้ทึบยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 71-1847 สมุทรปราการ

พุ่งชนเข้าที่ด้านท้ายพ่วงของรถบรรทุกหกล้อแบบตีตู้ทึบในลักษณะเดียวกัน ทะเบียนส่วนหัวลาก 61-2223 กทม. และส่วนท้ายพ่วง 76-7776 กทม.จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณส่วนท้ายของหางพ่วงตัวรถ และส่วนหน้าของรถคันที่พุ่งเข้าชนจนยุบพังยับเยิน โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา กำลังระดมใช้น้ำฉีดดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับรถคันที่พุ่งเข้ามาชนท้าย

ทราบชื่อคือ นายณัฐดนัย หวลกะสิน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/2102 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกที่บริเวณท่อนแขนขวาจนผิวหนังชั้นนอกเสียหายตลอดทั้งแถบ ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร(เมืองฉะเชิงเทราเดิม) ก่อนหน้าแล้ว
จากการสอบปากคำ นายเกรียงไกร บุญเย็น อายุ 39 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงคู่กรณี ให้การว่า
 
ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถไปรับไวน์จากโรงงานผลิตในเขตพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อจะไปส่งต่อให้กับเอเย่นต์ในเขต จ.ปราจีนบุรี แต่ได้มาจอดแวะปัสสาวะข้างทาง จากนั้นจึงได้ขึ้นมาอยู่ที่บนรถ และเตรียมที่จะขับรถออกไป แต่ได้มีรถคันคู่กรณีพุ่งเข้ามาชนที่ด้านท้ายอย่างแรงก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้ติดตามมา ซึ่งตนพร้อมด้วยภรรยาที่นั่งมาด้วย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งเข้าไปช่วยคนขับของฝ่ายที่เข้ามาชนเปิดประตูแล้วนำตัวคนขับที่ติดคาอยู่ในซากลงมาจากรถได้ทันเวลา ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้ท่วมทั้งคัน จากนั้นจึงได้มีรถฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรามาช่วยนำตัวคนเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาล 
ร.ต.ท.พิชิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
 
โดยเบื้องต้นคนขับฝ่ายที่ถูกชนท้ายอ้างว่า ได้นำรถเข้ามาจอดแวะเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนการถูกชนท้าย ขณะที่อีกฝ่ายนั้นยังได้รับบาดเจ็บอยู่จึงยังต้องรอการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 
นายสมนึก เดชพิทักษ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านพักอยู่ริมถนน กล่าวว่า บริเวณนี้มักเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนท้ายกันเป็นประจำ
 
เนื่องจากรถบรรทุกส่วนใหญ่มักจะนำรถเข้ามาแวะจอดนอนพักผ่อนอยู่ริมข้างทางโดยที่ไม่ได้เปิดให้สัญญาณไฟเตือนไว้ จึงทำให้รถที่ขับมาตามหลังมองไม่เห็น
เพราะแสงไฟบริเวณนี้สว่างไม่มากพอจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง และมักจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด โดยตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3-4 ครั้ง
แล้ว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์