หวิดคร่า300ชีวิต สารพิษรง.รั่ว

ท่อส่งสารเคมี โรงงาน ผลิตจิวเวลรี่ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน

ระเบิด พนักงานหลายร้อยชีวิตหนีตายอลหม่าน ต้องหามส่ง รพ.กว่า 300 คน ในสภาพช็อกหมดสติ เกร็งกระตุก แน่นอกหายใจไม่ออก หลังแพทย์ให้การรักษาอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ยังคงให้นอนพักรักษาเพื่อรอดูอาการ 52 คน แฉสาเหตุเกิดประกายไฟจากการอ๊อกเชื่อมงานก่อสร้างกระเด็นไปติดใยหุ้มท่อส่งสารเคมีที่ใช้สำหรับชุบเครื่องประดับ ทำให้ท่อแตก สารเคมีฟุ้งกระจายทั่วโรงงาน อุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิดทันที พร้อมประกาศให้โรงงานเป็นเขตพื้นที่เสี่ยงภัย

เหตุการณ์พนักงานโรงงานผลิตเครื่องประดับนับ พันหนีตายโกลาหล หลังสารเคมีเกิดรั่วไหล เปิดเผยเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 ก.ค.

พ.ต.ท.วินัย สืบหิรัญ สารวัตรเวร สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุ ถังบรรจุสารเคมีรั่วไหล มีคนงานได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริษัท แมรีกอท จิวเวลรี (ประเทศไทย) จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เลขที่ 200 ถนนสายเอเชีย หมู่ 1 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ผลิตเครื่องประดับ ประเภท เพชร พลอย พบพนักงานหลายร้อยคน วิ่งหนีตายกันอลหม่านออกมานอกโรงงาน

ส่งเสียงร่ำไห้ระงม ขณะที่บางส่วนนอนสลบไสลหมดสติอยู่ที่สนามหน้าโรงงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.ราชธานี รพ.นวนคร 2 (อยุธยา) และ รพ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 300 คน โดยแต่ละคนมีสภาพหมดสติ ร่างกายเกร็งและกระตุก บางรายไม่รู้สึกตัว แน่นอกหายใจไม่ออก ปวดตามเนื้อตัวอย่างรุนแรง แพทย์ได้ระดมเจ้าหน้าที่ให้การรักษาอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนมากและอาการหนัก ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่หลังจากที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ยังคงนอนพักรักษาเพื่อรอดูอาการโดยกระจายอยู่ตาม รพ.ต่างๆ รวม 52 คน

นายกฤตดนัย เส้นหมัน อายุ 30 ปี ช่างประจำโรงงาน หนึ่งในผู้บาดเจ็บกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนได้รับแจ้งว่าสารเคมีรั่วที่สายการผลิตที่ 3 เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีกลิ่นของสารเคมีฟุ้งกระจายออกมาอย่างรุนแรง ต้องเผ่นหนีออกมาและช็อกหมดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ถูกนำตัวส่ง รพ.

ในขณะที่นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้มีคนงานทั้งหมดกว่า 4,000 คน บาดเจ็บจากการสูดดมสารพิษเกือบ 300 คน

แต่ล่าสุดพบว่ามีผู้บาดเจ็บต้องนอนพักรักษาตัวที่ รพ.เพียง 52 คน แพทย์ยืนยันว่าทุกคนปลอดภัย สำหรับสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าเกิดจากประกายไฟจากการอ๊อกเชื่อมของการก่อสร้าง  กระเด็นไปถูกใยหุ้มท่อส่งน้ำยาเคมีสำหรับชุบเครื่องประดับจนเกิดไฟลุก ทำให้ท่อแตกสารเคมีฟุ้งกระจายออกมา เมื่อคนงานสูดดมเข้าไปจึงเกิดอาการตามที่ปรากฏ โรงงานแห่งนี้มีการซ้อมแผนอุบัติเหตุมาก่อน เมื่อมีการกดสัญญาณแจ้งเหตุ คนงานทั้งหมดรีบวิ่งออกไปที่จุดรวมพลกลางแจ้ง เมื่อต้องวิ่งในสภาพที่ร้อนจัดในช่วงบ่ายและสูดสารเคมีเข้าไป ทำให้คนงานส่วน ใหญ่เป็นลม ในเบื้องต้นได้สั่งปิดโรงงานพร้อมประกาศให้เป็นเขตพื้นที่อันตรายแล้วจนกว่าจะได้รับการแก้ไข

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช. สาธารณสุข

ได้สั่งการให้ส่งชุดปฏิบัติการขั้นสูงและขั้นพื้นฐาน จาก รพ.นพรัตน์ราชธานี และทีมจาก รพ.ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในทันที ขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าสารเคมีที่รั่วไหลออกมานั้น เป็นสารปรอทหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากกรมควบคุมมลพิษ โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าควันที่เกิดจากการเผาไหม้ อาจเป็นพวกคาร์บอน เบื้องต้นมีผู้ป่วยทั้งหมด 65 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน แน่นหน้าอก ชักเกร็ง หายใจติดขัด ชาที่นิ้วมือนิ้วเท้า หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาและอาการดีขึ้น จึงให้กลับบ้านได้ 13 คน คงเหลือ 52 คน

นพ.สุพรรณกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ บริเวณใกล้เคียงหากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด วิงเวียนศีรษะ ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่ รพ.ใกล้บ้าน โดยในวันที่ 16 ก.ค. กระทรวงสาธารณสุข จะส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามอาการของผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์