หมอพรทิพย์-ทัพเรือลุยพิสูจน์ยันมีตู้คอนเทนเนอร์อยู่จริง

คมชัดลึก :หมอพรทิพย์-กองทัพเรือขึ้นเรือรบลุยตรวจสอบปริศนาตู้คอนเทนเนอร์ พบมีอยู่จริง เผยหลักฐานปะการัง ต้นไม้ทะเลที่เกาะตามตู้อายุประมาณ 20 ปี ระบุได้ข้อมูลจากท้องถิ่นเคยมีนักล่าสมบัติดำลงไปเปิดตู้เจอกะโหลกอื้อ ด้านนักโบราณคดีใต้น้ำยืนยันปี 51 ยังไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ในทะเลสัตหีบ ย้ำชัดหลังมีคนร้องเรียนเคยไปสำรวจร่วมกับดีเอสไอ แต่ไม่พบสิ่งใด ขณะที่นายกฯ สั่งก.ยุติธรรมเป็นแม่งานหลัก


 ความคืบหน้าการพิสูจน์หาความจริงเกี่ยวกับข้อสงสัยในเรื่องตู้คอนเทนเนอร์หลายตู้จมอยู่ในทะเลลึกในพื้นที่ อ.สัตหีบ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต หลังจากมีข่าวลือว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นที่เก็บศพของวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เนื่องจากก่อนหน้านี้เรือประมงลากอวนและชาวบ้านพบหัวกะโหลกหลายร้อยชิ้นในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้คณะทำงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจสอบ โดยมีกองทัพเรือสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่

หมอพรทิพย์-ทัพเรือลุยพิสูจน์

 เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม บริเวณท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทีมงานนักประดาน้ำ กองทดสอบสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารเรือ นำโดย น.ต.สุรชัย บุตรเสถียร หัวหน้าชุดปฏิบัติงาน ได้นำเรือยาง อุปกรณ์การดำน้ำครบชุด ลงเรือหลวงวังนอก ที่เทียบอยู่บริเวณท่าเรือแหลมเทียน เพื่อเดินทางไปตรวจสอบ จุดแรกของการตรวจสอบคือ พิกัดตู้คอนเทนเนอร์ที่ 2 ละติจูด 12 องศา 2935 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 101 องศา 04.5 องศาตะวันออก น้ำลึกประมาณ 20 เมตร

 ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ พล.ร.ต.ทวีป สุขพินิจ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 น.อ.พนม ควรประดิษฐ์ รองผู้อำนวยการกองยุทธการ (รอง ผอ.ยก.ทรภ.1) น.อ.ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน (รอง ผอ.กพร.ทรภ.1) พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พร้อมคณะทำงาน และสื่อมวลชนทุกแขนง เดินทางไปกับเรือหลวงภูเก็ต เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น

 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบถึงพิกัดแล้ว และสามารถยืนยันพิกัดในจุดแรกที่ลงไปดำน้ำตรวจสอบก็คือ พิกัดละติจูด 12 องศา 310.172 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 101 องศา 04.109 ลิปดาตะวันออก ทางชุดประดาน้ำจึงผูกทุ่นเป็นสัญลักษณ์ในการดำน้ำและการค้นหา ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน จะไม่เปิดตู้ในทะเลอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ต้องมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตู้แน่นอน ถ้าตู้ถูกล็อกและปิดอย่างมิดชิด นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลยืนยันว่า เคยรับฟังจากกลุ่มนักล่าวัตถุโบราณใต้ทะเล ดำน้ำไปค้นหาในซากเรือสินค้า เรือเดินทะเล และซากเรือจมสมัยเก่าว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เพราะกลุ่มนักล่าวัตถุโบราณเคยดำน้ำไปเปิดตู้คอนเทนเนอร์พบว่าข้างในเป็นซากศพ จึงรีบหนีขึ้นมา โดยไม่มีใครไม่กล้าไปเปิดตู้อื่นๆ อีกทั้งยังไม่กล้านำเรื่องไปแจ้งให้ใครทราบ เพราะกลัวจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องดังกล่าว

ยืนยันชัดมีตู้คอนเทนเนอร์จริง

 ภายหลังใช้เวลาสำรวจนานหลายชั่วโมง ต่อมาเวลา 17.45 น. คณะสำรวจตู้คอนเทนเนอร์เดินทางกลับมาถึงท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จากนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์พบเพียง 1 ตู้ มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร ภายนอกมีปะการัง เพรียง ต้นไม้ทะเลขึ้นหนาทึบ ส่วนหลักฐานตัวหนังสือ ตัวเลข คงตรวจสอบได้ยากมาก เพราะเหล็กถูกสนิมเกาะกินทั้งหมด อย่างไรก็ตามจากการประมาณการจากต้นไม้ ปะการัง หอย และสิ่งมีชีวิต น่าจะมีอายุประมาณ 20 ปี แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ข้างในตู้คอนเทนเนอร์เป็นอะไร จึงต้องนำเรื่องนี้เสนอรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
 พล.ร.ต.ทวีป กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เป็นเพียงภารกิจแรกที่ต้องไขปริศนาเกี่ยวการพบตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนภารกิจต่อไปคงต้องขอรับการสนับสนุนเรือกวาดทุ่นระเบิดมากวาดหาเป้าหมายโลหะขนาดใหญ่ในทะเล ที่ยังหลงเหลืออยู่อีก 7 ตู้ ซึ่งคงต้องรอคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเห็นชอบ เนื่องจากต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่าย เช่น กรมมลพิษ ตำรวจ เพราะยังไม่มีใครทราบว่าภายในบรรจุอะไร
 
นักโบราณคดีชี้ไม่เคยมีตู้

 วันเดียวกัน นายเอิบเปรม วัชรางกูร หัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร กล่าวว่า หลังจากมีข่าวพบซากตู้คอนเทนเนอร์จมอยู่ใต้ทะเลลึกในอ่าวช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรื่องนี้ขอยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีตู้คอนเทนเนอร์จมอยู่อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2551 กลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงไปพิสูจน์ค้นหาตู้คอนเทนเนอร์บริเวณเกาะแสมสาร และเกาะยาว เนื่องจากมีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาทางดีเอสไอ เมื่อลงไปสำรวจก็ไม่พบตู้คอนเทนเนอร์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันชาวประมงที่มีอาชีพรับจ้างพาคนไปตกปลาก็มาบอกกลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำว่า หากมีศพจริง หรือสิ่งเน่าเปื่อย บริเวณนั้นจะมีปลาชุม ชาวประมงก็ต้องรู้ เพราะเป็นวิถีชีวิตของชาวเล

 "มีประชาชนออกมาร้องเรียนเรื่องนี้เกือบ 20 ปีแล้ว แต่เมื่อพิสูจน์ก็ไม่พบหลักฐานอะไร การออกมาร้องเรียนครั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไรกันแน่ ผมอยากให้ทีมงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ พิสูจน์ว่ามีศพหรือหัวกะโหลกในตู้คอนเทนเนอร์จริงหรือไม่ แต่ผมยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน" หัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำ กล่าว

นายกฯสั่งการให้ยธ.เป็นแม่งาน

 พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมเป็นแม่งานในการตรวจสอบแล้ว ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการทุกอย่างไปตามอำนาจหน้าที่ จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) เข้าไปร่วมพิสูจน์ทราบ พร้อมประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและกองทัพเรืออย่างต่อเนื่อง

 ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ 2 นาย ร่วมเป็นทีมสังเกตการณ์การตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า บริเวณร่องน้ำลึกที่พบตู้คอนเทนเนอร์นั้น เคยเป็นเส้นทางการเดินเรือขนถ่ายสินค้า นอกจากนี้ในสมัยสหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพที่ อ.สัตหีบ ก็ใช้ร่องน้ำดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเรือด้วย ดังนั้นการตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์จำเป็นต้องมีข้อมูลรอบด้าน โดยจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความน่าจะเป็นกับความเชื่อที่พูดกันปากต่อปาก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์