หญิงหั่นลูกเริ่มจำเหตุการณ์ได้ รู้สึกผิด-พบปกติเป็นคนรักลูก แต่ได้ยินเสียงสั่งให้ทำ

ภาพจาก ข่าวสดภาพจาก ข่าวสด


เมื่อ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากนพ.สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุงว่า ได้รับตัวผู้ป่วยรายนี้เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2555 ตามคำสั่งศาลเพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชหรือไม่ โดยเคยมีประวัติการรักษาและรับยาที่โรงพยาบาลฝาง และขาดการรักษามาระยะหนึ่ง อาการล่าสุดเช้าวันนี้ ผู้ป่วยอาการสงบ ให้ความร่วมมือในการตรวจรักษา พูดคุยรู้เรื่อง ดูแลตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้ตามปกติ

 นพ.สุรวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ทางโรงพยาบาลสวนปรุง ให้การดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานการรักษาและอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจวินิจฉัย ซึ่งจะมีการตรวจทางจิตวิทยา การสังเกตอาการ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่นการตรวจคลื่นสมอง การหาสารเสพติด เป็นต้น คาดว่าจะสรุปผลว่าป่วยเป็นโรคทางจิตเวชหรือไม่ ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อส่งข้อมูลให้ศาลประกอบการพิจารณาคดีต่อไป ในการนี้ จะปรึกษาหารือกันในเรื่องการป้องกันอันตรายของประชาชนในชุมชนจากผู้ป่วยทางจิตเวช รวมทั้งการดูแลให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการรักษาและเข้าถึงยา  ทั้งนี้  ในปี 2554 มีผู้ป่วยนอกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข 18 แห่งทั่วประเทศ รวม 89,388 ราย นอนรักษาในโรงพยาบาล 44,047 ราย เฉลี่ยนอนรักษาตัวรายละ 33 วัน

 ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยม ผู้ป่วยที่ รพ.สวนปรุง ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยเริ่มมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังมีอาการ งงๆ และเริ่มจำเหตุการณ์ได้บ้าง ทำให้เริ่มมีอาการเศร้ามากขึ้น เพราะเริ่มรู้ว่าทำอะไรลงไป ซึ่งปกติผู้ป่วยเป็นคนที่รักลูกมาก ไม่เคยแม้แต่จะตีลูก แต่ในวันเกิดเหตุเชื่อว่าเกิดจากอาการป่วย เพราะผู้ป่วยระบุว่า ได้ยินเสียงพ่อที่ตายไปแล้วเป็นคนสั่งให้ทำ และเกิดจากอาการหลงผิดคิดว่าลูกเป็นหมู จึงได้กระทำการดังกล่าวลงไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของแพทย์ต้องบำบัดและรวบรวมข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป ยังถือเป็นผู้ป่วยนิติจิตเวช ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและให้ศาลตัดสินต่อไป โดยศาลจะพิจารณามูลเหตุในขณะที่ลงมือทำว่าเกิดจากอาการทางจิตหรือไม่อย่างไร

 นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหลงผิดจะดำเนินการเหมือนผู้ป่วยจิตเวชอื่นๆ แต่จะเพิ่มเติมการประเมินอันตราย ต่อคนรอบข้างเพื่อต้องกลับเข้าสู่สังคม ผู้ป่วยรายนี้อาจจะต้องอยู่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเป็นพิเศษแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ส่วนในกรณีที่ก่อคดีแต่ศาลพิจารณาว่าเกิดจากอาการทางจิต จะมีการประเมินภาวะอันตรายต่อคนรอบข้างประกอบด้วย และขึ้นอยู่กับศาลจะให้บำบัดรักษาอาการทางจิตเป็นเวลานานเท่าใด สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าวมีประวัติการรักษาอาการทางจิตอยู่ที่ รพ.ชุมชน โดยคาดว่าขาดยามาประมาณ 2 เดือน โดยช่วงที่ก่อเหตุสามีไม่อยู่บ้านเนื่องจากต้องไปทำงานต่างจังหวัด จึงไม่มีใครดูแลจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

 “ปัญหาคือผู้ป่วยรายนี้น่าจะมีอาการกำเริบมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ แต่ญาติไม่ได้สนใจ หรือระยะทางจากบ้านมาโรงพยาบาลไกลเกิน จึงไม่ได้เข้ารับการรักษา ซึ่งอาการของผู้ป่วย ถือว่ารุนแรงเพราะไม่รู้สึกตัว ว่าได้ทำอะไรผิดปกติ หรือผิดธรรมชาติไปบ้าง”นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

 นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยนิติจิตเวชคิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ป่วยจิตเวชทั้งประเทศ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตทั่วไปที่อยู่ในโรงพยาบาล มีประมาณ 6 แสนราย ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถสังเกตอาการผู้ที่มีอาการทางจิตได้ โดยมักจะเป็นคนร่อนแร่พเนจร แต่งกายสกปรก ชอบพูดคนเดียว นอนไม่หลับ ทำกิจวัตผิดแปลก เช่น จากนอนกลางคืนเป็นนอนกลางวัน หวาดระแวงไม่สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ ซึ่งในการรักษาต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง เพราะ 90% ของผู้ที่มีอาการรุนแรงเกิดจากการขาดยา

 นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ปัจจุบันรพ.ระดับชุมชนทุกแห่ง สามารถรักษาและดูแลผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตได้ แต่หากอาการของโรครุนแรงก็จะส่งต่อไปที่ รพ.ศูนย์ หรือ รพ.จิตเวช  ต่อไป ซึ่งปัจจุบันก็มีพยาบาลชุมชนในทุกจังหวัดซึ่งสามารถดูแลผู้ป่วยจิตเวชได้ และคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีจิตแพทย์ประจำครบทุกจังหวัดด้วย นอกจากนี้ จะมีการอบรมพยาบาลเพื่อให้สามารถดูแลคนไข้จิตเวชได้ ในระดับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ทุกแห่ง เพื่อให้สามารถจ่ายยา และติดตามอาการของผู้ป่วยเมื่อกลับมาอยู่กับครอบครัวเพื่อให้ได้รับยาต่อเนื่องด้วย  

ทั้งนี้ หากพบว่าคนในครอบครัว หรือ ในชุมชน เริ่มมีลักษณะแยกตัว ซึมเศร้า พูดคนเดียว หรือ เริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ ให้พาไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลเพราะอาการทางจิตเป็นโรคที่รักษาได้ด้วยการใช้ยา 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์